สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 เมื่อเวลา 08.00 น. พบ 22 จังหวัดภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง ที่มีผลกระทบต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ
ได้แก่ เชียงราย 177.2 ไมโครกรัม, แม่ฮ่องสอน 172 ไมโครกรัม, เชียงใหม่ 169.4 ไมโครกรัม, ลำพูน 152.4 ไมโครกรัม, น่าน 140.8 ไมโครกรัม, พะเยา 136.1 ไมโครกรัม, ลำปาง 130.1 ไมโครกรัม, แพร่ 113.9 ไมโครกรัม, นครพนม 112.2 ไมโครกรัม, เลย 107.3 ไมโครกรัม, บึงกาฬ 103.4 ไมโครกรัม, อุตรดิตถ์ 100.3 ไมโครกรัม, หนองบัวลำภู 87.9 ไมโครกรัม, อุดรธานี 86.7 ไมโครกรัม, กาฬสินธุ์ 85.9 ไมโครกรัม, หนองคาย 85 ไมโครกรัม, มุกดาหาร 84.2 ไมโครกรัม, ตาก 83.5 ไมโครกรัม, สกลนคร 79.3 ไมโครกรัม, สุโขทัย 79.1 ไมโครกรัม, ร้อยเอ็ด 78.6 ไมโครกรัม และอำนาจเจริญ 75.5 ไมโครกรัม
ในขณะที่อีก 15 จังหวัดมีค่าเกินมาตรฐานในระดับสีส้ม ที่เริ่มมีผลต่อสุขภาพและระบบทางเดินหายใจ ส่วนใหญ่จะอยู่ในโซนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สำหรับพื้นที่กรุงเทพมหานครเช้าวันนี้พบว่า มีคุณภาพอากาศดีไปจนถึงอากาศดีมาก
คาดการณ์ปริมาณฝุ่น PM 2.5 ในอีก 3 ชั่วโมงข้างหน้า พบว่า หลายพื้นที่จะมีค่าคุณภาพอากาศที่ยังคงเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ โดยเฉพาะโซนภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ