กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ติดตามสถานการณ์เรื่องแคดเมียมมาตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคม จากโรงงานต้นทาง จ.ตาก และไล่ติดตามเส้นทางการขนส่ง ซึ่งคาดว่ามีการกระจายไปหลายที่และมีจุดหมายคือการส่งออกนอกประเทศ เพราะโรงหลอมในประเทศยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถหลอมและเก็บแคดเมียมในลักษณะนี้ได้อย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ เนื่องจากแคดเมียมมีจุดเดือดต่ำกว่าสารประกอบอื่น ๆ
โดยในวันนี้นายณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร และนายก อบต.บางน้ำจืด ลงพื้นที่โรงงานที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อติดตามสถานการณ์กากแร่สังกะสีและแคดเมียม เข้าตรวจค้นโรงงานบริษัท เจ แอนด์ บี เมททอล อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ซึ่งมีการลงพื้นที่ไปแล้วครั้งนึงเมื่อวันที่ 5 เมษายน 2567 ที่พบถุง Big Bag บรรจุกากแคดเมียม/กากสังกะสี จำนวนกว่า 3,000 ตัน
โดยในวันนี้ได้ตรวจค้นและพบถุง Big Bag เพิ่มอีกกว่า 3,378 ตัน ซึ่งเท่ากับว่าโรงงานนี้มีกากแคดเมียมซุกซ่อนกว่า 6,378 ตัน
ส่วนการดำเนินการได้ แบ่งเป็น 3 แนวทาง คือ
1. การจัดการกากแคดเมียมที่ตรวจพบ คือถ้าเจอการจัดเก็บหรือพักไว้ที่จุดใด จะนำส่งกลับไปจุดต้นทางอย่างปลอดภัย โดยจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พบว่าบ่อกักเก็บต้นทางยังมีสภาพดี ไม่มีการรั่วซึม สามารถจัดเก็บได้
2. การสืบค้นส่วนที่เหลือ คือ ดำเนินการตรวจสอบ ตรวจค้น พื้นที่โรงงานหรือท่าเรือที่ต้องสงสัยและเกี่ยวข้องทุกแห่ง เพื่อติดตามกากแคดเมียมกลับคืนให้ได้ใกล้เคียงปริมาณเดิมที่สุด
3. มาตรการป้องกัน คือให้คณะกรรมการฯ เจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หารือกันว่ามีช่องว่างที่บกพร่องตรงจุดใดบ้าง เพื่อป้องกันการลักลอบขนย้ายหรือลักลอบจำหน่ายในอนาคต และในเบื้องต้นได้มีการพูดคุยกับบริษัทต้นทางแล้วว่าจะขนย้ายกากทั้งหมดที่พบกลับไปในจุดฝังกลบตามเดิม ภายในวันที่ 30 เมษายน 2567 และทำการฝังกลบภายในวันที่ 15 พฤษภาคม 2567