นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ จ.เชียงใหม่ เพื่อติดตามการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กที่เกินค่ามาตรฐาน (PM2.5) ว่า ได้สั่งการให้นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร วางแผนเพิ่มขีดความสามารถการปฏิบัติการฝนหลวงในเดือน เม.ย. รวมถึงใช้เทคนิคดัดแปรสภาพอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาหมอกควัน และฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 โดยเพิ่มเครื่องบินมาปฏิบัติการที่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จ.เชียงใหม่ จากเดิม 3 ลำ เป็น 8 ลำ และปรับแผนการบินปฏิบัติการให้มีความถี่มากขึ้น โดยมีเป้าหมายบินปฏิบัติการรวม 100 เที่ยวบิน ในช่วงวันที่ 11-20 เม.ย.67 เพื่อให้สามารถช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาให้ประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับความเดือดร้อนได้อย่างทันท่วงที
รมช.เกษตรและสหกรณ์ มั่นใจว่า สงกรานต์ปีนี้ ปัญหาเรื่องฝุ่นละอองใน จ.เชียงใหม่ จะดีขึ้น วันนี้ตนจะขึ้นปฏิบัติการบินทำฝนหลวงด้วยตนเอง ซึ่งจากการปฏิบัติการปรากฏว่ามีฝนตกเพิ่มขึ้นในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดใกล้เคียงมากขึ้น ค่าฝุ่นละอองลดลง อยู่ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น จึงอยากให้ประชาชนมีความมั่นใจว่าสถานการณ์เรื่องฝุ่นละอองจะลดลง เพื่อให้การท่องเที่ยวสงกรานต์ปีใหม่นี้ ประชาชนมีความสุข ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และยังเป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้เม็ดเงินไหลเข้ามาในประเทศ และเป็นการกระตุ้นภาคเศรษฐกิจอีกด้วย
โดยแผนปฏิบัติการบินช่วงดังกล่าว ได้แก่ 1.ปฏิบัติการบรรเทาปัญหาหมอกควัน PM2.5 โดยการก่อเมฆ-เลี้ยงเมฆ รวมถึงการใช้น้ำแข็งแห้งและสเปรย์น้ำปรับลดอุณหภูมิ บริเวณพื้นที่ที่ค่าคุณภาพอากาศเกินมาตรฐานและมีแนวโน้มการสะสมฝุ่นควันสูง 2.ปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อให้เกิดฝนในพื้นที่ป่าไม้ เพื่อสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ ลดการเกิดไฟป่า 3.ปฏิบัติการบรรเทาการเกิดพายุลูกเห็บ โดยมีโอกาสในการปฏิบัติการสูงในช่วงวันที่ 9-15 เม.ย.67
สำหรับผลปฏิบัติการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็กช่วงระหว่างวันที่ 8 ม.ค.-10 เม.ย.67 ได้ปฏิบัติการจำนวน 79 วัน 282 เที่ยวบิน ในบริเวณ 15 จังหวัด ได้แก่ ลำปาง ลำพูน เชียงใหม่ พะเยา แม่ฮ่องสอน แพร่ น่าน สุโขทัย เชียงราย อุตรดิตถ์ ตาก พิษณุโลก กำแพงเพชร เพชรบูรณ์ และ พิจิตร พบว่าหลังปฏิบัติการส่งผลให้บริเวณพื้นที่ที่ปฏิบัติการค่าฝุ่นลดลง โดยในช่วงเช้าของวันนี้มีปริมาณฝุ่นละอองอยู่ในระดับปานกลาง ตรวจวัดได้ 34.7 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร