คุมเพลิงได้แล้ว! ไฟไหม้โกดังอยุธยา นายกฯ สั่งเร่งตรวจสอบสารเคมีตกค้าง-อพยพปชช.

ข่าวทั่วไป Thursday May 2, 2024 11:22 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

คุมเพลิงได้แล้ว! ไฟไหม้โกดังอยุธยา นายกฯ สั่งเร่งตรวจสอบสารเคมีตกค้าง-อพยพปชช.

จากเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี ซึ่งเป็นของกลางที่ยึดอายัดอยู่ระหว่างรอทำลาย ที่ ต.ภาชี อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเริ่มเกิด เพลิงไหม้ ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ของวานนี้ (1 พ.ค.) จนกระทั่งช่วงเวลา 02.00 น. วันนี้ (2 พ.ค. 2567) จึงสามารถคุมสถานการณ์ไว้ได้ โดยกลุ่มควันพวยพุ่ง ส่งกลิ่นเหม็นเป็นวงกว้างและลอยไปทางโรงพยาบาลภาชี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 600 เมตร ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และสอบสวนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการทุกหน่วยสนับสนุนการดับไฟและบรรเทาสถานการณ์ไฟไหม้โกดังอายัดสารเคมี บริเวณอำเภอภาชี พระนครศรีอยุธยา อย่างเต็มที่ รวมทั้งตรวจสอบสารเคมีตกค้าง และอพยพประชาชนบริเวณใกล้เคียง พร้อมกับสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นหัวหน้าทีม และช่วยเหลือดูแลประชาชน

คุมเพลิงได้แล้ว! ไฟไหม้โกดังอยุธยา นายกฯ สั่งเร่งตรวจสอบสารเคมีตกค้าง-อพยพปชช.

นายชัย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีให้วางแผนการทำงาน แบ่งทีมการทำงานแก้ไขสถานการณ์ ดับไฟ ฉีดน้ำซับสารเคมี ตรวจสอบการเคมีตกค้าง และให้ความช่วยเหลือประชาชนบริเวณใกล้เคียง รวมทั้งขอให้ทีมช่วยเหลือจากจังหวัดใกล้เคียง สแตนบายช่วยเหลือหากได้รับการร้องขอ รวมทั้งประชาสัมพันธ์ประชาชน ใส่หน้ากากอนามัย และไม่ออกมาอยู่บริเวณที่โล่ง พร้อมระดมแพทย์เข้าดูแลด้วย

*ปิด รพ.ภาชี -ย้ายผู้ป่วยไป รพ.อื่น

นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า เบื้องต้น ยังไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต แต่มีกลุ่มควันหนาแน่นลอยไปทางโรงพยาบาลภาชี ซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 600 เมตร มีผู้ป่วยในโรงพยาบาล 35 ราย ได้จำหน่ายกลับบ้าน 4 ราย ที่เหลืออีก 31 ราย กำลังดำเนินการอพยพผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง ได้แก่ โรงพยาบาลท่าเรือ 8 ราย, โรงพยาบาลสมเด็จพระสังฆราชฯ 15 ราย, โรงพยาบาลอุทัย 4 ราย และ โรงพยาบาลวังน้อย 4 ราย

คุมเพลิงได้แล้ว! ไฟไหม้โกดังอยุธยา นายกฯ สั่งเร่งตรวจสอบสารเคมีตกค้าง-อพยพปชช.

โรงพยาบาลภาชี ยังได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม พร้อมทั้งสนับสนุนอุปกรณ์ให้กับจุดอพยพประชาชน วัดโคกม่วง อำเภอภาชี และจัดทีมเจ้าหน้าที่จาก รพ.สต. ร่วมดูแลประชาชน ที่โรงพยาบาลสนามด้วย โดยหลังสถานการณ์เพลิงไหม้สงบแล้ว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะส่งเจ้าหน้าที่กลุ่มงานอนามัยสิ่งแวดล้อมและอาชีวอนามัย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ และเฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนโดยรอบพื้นที่ต่อไป

*สธ. เฝ้าระวังสุขภาพปชช.-แนวทางปฏิบัติตัว

กรมควบคุมโรค ส่งทีมลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์โกดังเก็บสารเคมีที่เกิดเพลิงไหม้ จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อเฝ้าระวังสุขภาพประชาชน ที่อาจได้รับผลกระทบจากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้โกดังเก็บสารเคมี พร้อมเร่งค้นหาผู้ที่ได้รับผลกระทบในบริเวณข้างเคียง ตรวจคัดกรองสุขภาพ ให้ความรู้ประชาชนถึงแนวทางปฏิบัติตัว พร้อมทั้งทำการศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อไป ซึ่งจากการตรวจสอบขณะนี้ ยังพบก๊าซฟอสฟีน และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ จึงขอเน้นย้ำผู้ปฏิบัติงาน และประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุ และพื้นที่ใกล้เคียง ป้องกันตนเองโดยการสวมหน้ากาก N95 หรือหน้ากากอนามัยที่มีคาร์บอน ซึ่งสามารถดูดซับกลิ่นและแก๊สได้บางส่วน โดยสังเกตได้จากการมีสีเทาดำ

พร้อมเน้นย้ำให้ปฏิบัติตัวตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ดังนี้

1. คอยสังเกตความผิดปกติ หากพบเห็นควัน หรือได้กลิ่นผิดปกติ รีบแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทันที

2.ปิดประตูหน้าต่างอาคารบ้านเรือนให้มิดชิด ถ้ายังได้กลิ่น ให้ไปอยู่ในที่โล่งที่มีอากาศบริสุทธิ์ในทิศเหนือลม

3.สวมหน้ากากอนามัยชนิดที่มีคาร์บอน หรือ N95 หากไม่มีให้สวมหน้ากากอนามัยปกติแล้วออกจากพื้นที่ทันที

4.หากพบว่ามีอาการคลื่นไส้ อาเจียน หายใจติดขัด มีเสียงหวีดในปอดหรือหมดสติ ให้รีบเคลื่อนย้ายไปยังที่ปลอดภัย อากาศถ่ายเทสะดวก และรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที

5.ผู้มีโรคประจำตัวที่เกี่ยวข้องกับระบบทางเดินหายใจ สังเกตอาการตนเอง หากมีอาการไอมากขึ้น หายใจมีเสียงหวีด และมีอาการผิดปกติอื่นๆ ควรรีบไปพบแพทย์ทันที


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ