"นพดล"ปฏิเสธข่าวไทยยอมผ่อนปรนเรื่องเขาพระวิหารให้เขมรแลกน้ำมัน-แก๊ส

          นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศ ปฏิเสธข่าวไทยยอมผ่อนปรนเรื่องเขาพระวิหารเพื่อแลกกับผลประโยชน์ในการได้มาซึ่งน้ำมันและแก๊สในบริเวณพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา โดยทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะไม่ยอมให้เสียแผ่นดินแม้แต่ตารางนิ้วเดียว
          "ไม่มีการเกี้ยเซียะหรือเอาแผ่นดินไปแลกอะไรอย่างเด็ดขาด" นายนพดล กล่าว
          รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า กระทรวงต่างประเทศ กองทัพบก กองทัพอากาศ และกระทรวงกลาโหม จะไม่ยอมเสียแผ่นดินแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ไม่มีผลประโยชน์ใดๆ ที่จะมาแลกกับแผ่นดินไทยได้ ตนเองในฐานะ รมว.ต่างประเทศ จะดูแลเรื่องนี้อย่างดีที่สุด ส่วนถ้อยคำในสัญญานั้นตนเองเป็นนักกฎหมายย่อมรู้ดีว่าอะไรที่จะผูกมัดประเทศไทยมากเกินไปหรือไม่ และเชื่อว่ามีช่องทางที่จะยุติเรื่องนี้ได้แต่ต้องใช้วิธีที่เข้มข้น
          "การเจรจาทางการทูตจะต้อง win win ทั้งสองฝ่าย จะ win lose ไม่ได้" นายนพดล กล่าว
          รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า รู้สึกเห็นใจเพราะประเทศกัมพูชาจะมีการเลือกตั้งในเดือน ก.ค.นี้ ขณะเดียวกันคณะกรรมการมรดกโลกก็เตรียมที่จะพิจารณาขึ้นทะเบียนเขาพระวิหารเป็นมรดกโลกในเดือน ก.ค.นี้เช่นกัน เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนระหว่างสองประเทศ และวันนี้กัมพูชาและไทยยังเป็นมิตรที่ดีต่อกัน โดยการเจรจาเรื่องพื้นที่ทับซ้อนนั้นต้องบริหารจัดการร่วมกัน ซึ่งตนเองพยายามติดต่อนายซก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา เพื่อเจรจาเรื่องนี้ให้ได้ข้อยุติ
          อย่างไรก็ตาม ไทยและกัมพูชากำลังจะออกแถลงการณ์เรื่องนี้ร่วมกันในเร็วๆ นี้ แต่ยังมีบางถ้อยคำที่ตกลงกันไม่ได้ ซึ่งจะเร่งดำเนินการโดยเร็ว เพื่อผลประโยชน์ทางการทูตของทั้งสองฝ่าย
          สำหรับพื้นที่ทับซ้อนที่พบแหล่งปิโตรเลียมนั้นประเมินว่ามีทั้งหมด 2.6 หมื่นตารางกิโลเมตร ซึ่งทั้งสองประเทศต้องมาบริหารจัดการร่วมกันและให้เกิดความชัดเจนเนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวมีแก๊สธรรมชาติและน้ำมันมูลค่าราว 5 ล้านล้านบาท โดยการเจรจาจะเป็นแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล ไม่มีเอกชนเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างเด็ดขาด
          ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลังการเจรจานั้น รมว.ต่างประเทศ กล่าวว่า ตนเองไม่ขอพูดเรื่องนี้เพราะจะเป็นการแก้ตัวให้ แต่เชื่อว่าอดีตนายกรัฐมนตรีจะไม่ทำตามที่เป็นข่าวอย่างแน่นอน