นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) แถลงผลการประชุมกรรมการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือเรื่องการแก้กฎหมายเพื่อเร่งรัดคืนเงินให้ผู้เสียหายเนื่องจากที่ผ่านมาการคืนเงินให้ผู้เสียหายจากคดีออนไลน์ ต้องใช้เวลานาน หลายๆ กรณี ใช้เวลาหลายปี กว่าจะสามารถคืนเงินให้ผู้เสียหายได้ โดยเห็นชอบให้เชื่อมระบบข้อมูลของธนาคารทุกธนาคาร โดยให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)ดำเนินการด้านระบบ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลบัญชีธนาคาร โดยมาตรการนี้จะเร่งดำเนินการภายใน 2 สัปดาห์จากนี้ปรับปรุงและแก้ไขกฎหมายพิเศษเป็นการเร่งด่วน โดยได้ออกเป็นร่างมาตรการในการคืนเงิน ปรับปรุงขั้นตอนให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อทดสอบเส้นทางการเงิน เพื่อให้ทราบว่ามีเม็ดเงินส่วนได้ถูกอายัดไว้ โดยหากป.ป.ง.ตรวจสอบแล้วเป็นเงินของผู้เสียหายจริง ป.ป.ง. สามารถคืนเงินให้ผู้เสียหายได้เลย ซึ่งจะทำให้การคืนเงินมีความรวดเร็วขึ้น
ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ทาง AOC 1441 โดย ดีอี สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) สมาคมธนาคารไทย ได้ร่วมมือ เร่งการระงับ/อายัด บัญชีม้าได้รวดเร็วเฉลี่ยภายใน 10 นาที และมีเงินที่ถูกอายัดได้จำนวนมาก ซึ่งในวันนี้จึงได้ประชุมพิจารณาถึงการหาวิธีคืนเงินให้รวดเร็วขึ้น โดยพิจารณาการออกกฎหมายพิเศษเพื่อเร่งการคืนเงิน
"มาตรการในการจัดการกับปัญชีม้าและซิมม้า ให้มีมาตรการในการลงทะเบียนซิมให้ หมายเลขโทรศัพท์ของผู้ใช้งานตรงกับหมายเลขโทรศัพท์ที่ใช้บริการโมบายแบงกิ้ง โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะเพิ่มมาตรการในการตรวจสอบให้ธนาคารพาณิชย์ใช้ยืนยันตัวตนของเจ้าของบัญชีในนการเปิดบัญชี ส่วนบัญชีม้า ธปท. และธนาคารพาณิชย์ได้เร่งมาตรการเด็ดขายในการตรวจสอบ และให้สำนักงาน กสทช. ทำระบบตรวจสอบเพื่อป้องกันปัญหาซิมม้า โดยระบบที่พัฒนาขึ้นจะตรวจสอบผู้ถือครองซิมและหมายเลขโทรศัพท์จะต้องตรงกัน รวมถึงเร่งรัดให้ผู้ถือครองซิมตามจำนวนที่กำหนดไว้ "
ในส่วนการเพิ่มโทษการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล โดยถือว่าการซื้อขายข้อมูลส่วนบุคคล เป็นการกระทำที่ส่งผลกระทบร้ายแรงต่อประชาชน เศรษฐกิจ และสังคมในวงกว้าง จึงต้องมีการกำหนดบทลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องและคนร้ายในอัตราโทษจำคุกเพิ่มขึ้นจาก 1 ปี เป็น 5 ปี
นอกจากนี้ ยังได้หารือถึงการป้องกันการโอนเงินแบบผิดกฎหมายของคนร้ายโดยการใช้สินทรัพย์ดิจิทัล โดยเฉพาะที่เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลในต่างประเทศที่ผิดกฎหมาย
"วันนี้ เราประชุมเพื่อหามาตรการเร่งรัดกวาดล้างบัญชีม้า และ หาวิธีคืนเงินให้ผู้เสียหายรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยที่ประชุมได้หารือถึงการออกพระราชกำหนด เป็นกฎหมายพิเศษเพื่อเร่งคืนเงินให้ผู้เสียหายและเพิ่มโทษการซื้อขายข้อมูล ซึ่งเป็นไปตามข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ขอให้เร่งการปราบปรามจับกุมคนร้าย กวาดล้างบัญชีม้า ซิมม้า ปิดกั้นโซเชียลมีเดียหลอกลวงต่อเนื่อง แก้ปัญหาหลอกลวงซื้อขายออนไลน์ และช่วยลดความเดือนร้อนของประชาชน" นายประเสริฐ กล่าว