![](/img/files/20240518/iq995ecafa576529b3a0b4cd082edf0c06-0.jpg)
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ได้ประชุมหารือแนวทางการจัดการผู้เสพยาเสพติดที่ศาลสั่งคุมประพฤติตามเจตนารมณ์ของประมวลกฎหมายยาเสพติด โดยมี นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ปลัดกระทรวงยุติธรรม นายกิตติกร โล่ห์สุนทร เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวิชัย ไชยมงคล ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายวัน อยู่บำรุง ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม เข้าร่วม ที่กระทรวงสาธารณสุข
![](/img/files/20240518/iq995ecafa576529b3a0b4cd082edf0c06-1.jpg)
โดยนายสมศักดิ์ กล่าวว่า การหารือระหว่าง 2 กระทรวงในวันนี้ เพื่อต้องการจัดการยาเสพติดแบบครบวงจร เพราะหากไม่ครบวงจร ก็จะมีการสะดุดทั้งหมด โดยการแก้ปัญหายาเสพติดในส่วนของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงยุติธรรม ก็จะเกี่ยวข้องกับการบำบัด ซึ่งในส่วนงานของกระทรวงยุติธรรม ต้องยอมรับว่า มีสถานที่บำบัดค่อนข้างจำกัด ดังนั้น จากนี้ จะมีการหารือแนวทางการบำบัดกัน โดยจะทำให้การแก้ปัญหายาเสพติดครบวงจร เพราะถ้าได้คนเสพ ก็ต้องถูกสอบสวนว่า ซื้อยามาจากไหน ซึ่งต้องรู้ว่า คนขายคือใคร จะได้ขยายผลไปสู่ผู้ผลิต โดยต้องทำทั้งหมด และเชื่อว่า ยาเสพติด จะหมดไป
![](/img/files/20240518/iq995ecafa576529b3a0b4cd082edf0c06.jpg)
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า วันนี้อยากหารือ รมว.สาธารณสุข เพื่อแก้ปัญหาการบำบัด เพราะที่ผ่านมา กรมคุมประพฤติ รายงานข้อมูลว่า มีคดียาเสพติด 135,444 คดี แต่ศาลสั่งบำบัด 34,484 คดี โดยถ้าศาลสั่งบำบัดก็ไม่มีปัญหา แต่อีกประมาณ 1 แสนคดี ที่ไม่ได้สั่ง เราก็มีความกังวล จึงมีความพยายามให้ศาล ช่วยสั่งบำบัด เพราะคนเหล่านี้ ยังอยู่ตามชุมชน ทั้งที่ควรได้รับการบำบัด
นอกจากนี้ ภายหลังการประชุม นายสมศักดิ์ ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนว่า ในวันนี้ ได้มีการหารือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข กับ กระทรวงยุติธรรม ในเรื่องการบำบัดผู้ติดยาเสพติด เพราะที่ผ่านมา มีผู้เสพจำนวนหนึ่ง ผ่านขั้นตอนของศาลมาแล้ว ซึ่งศาลสั่งคุมประพฤติ แต่ไม่ได้สั่งบำบัด จึงทำให้เป็นปัญหา โดยระยะเวลา 3-4 ปี มีคดียาเสพติดที่ศาลสั่งคุมประพฤติ แต่ไม่สั่งบำบัด ประมาณ 1 แสนราย ซึ่งถ้าไม่บำบัดก็จะเกิดปัญหา ดังนั้น ต้องมีการบูรณาการทั้ง สาธารณสุข ยุติธรรม มหาดไทย กลาโหม โดยเฉพาะผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนจากนี้ ต้องหารือเรื่องกฎหมายให้บำบัดต่อไป
เมื่อถามถึงความพร้อมรองรับการบำบัดของกระทรวงสาธารณสุข นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ใน 1 แสนคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยกลุ่มสีเขียว ต้องบำบัดด้วยสังคม ส่วนกลุ่มสีส้ม และสีแดง ต้องบำบัดด้วยยา ดังนั้น กระทรวงสาธารณสุข มีความพร้อมเต็มที่ เมื่อถามถึงแนวคิด 1 ผู้เสพ ขยายผล 1 ผู้ขาย นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ผู้เสพ ถ้าสมัครใจบำบัด ไม่ต้องขึ้นศาล แต่ต้องบอกให้ได้ว่า ซื้อยาบ้ามาจากใคร ดังนั้น ต้องมีการสอบสวน และตำรวจต้องดำเนินคดีกับผู้ขายรายดังกล่าว และขยายผลไปสู่การยึดทรัพย์ตัดวงจรการค้ายาเสพติดต่อไป ดังนั้น จากนี้ ถ้าจับผู้เสพ 1 ราย ก็ต้องมีผู้ขาย 1 รายด้วย
ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า วันนี้ เรามาติดตามเร่งรัดในการป้องกันปราบปรามและบำบัดยาเสพติด ซึ่งที่ผ่านมา เรามีความกังวลกลุ่มผู้เสพเดิม ที่ไม่ผ่านการบำบัด เพราะยังอยู่ตามชุมชน จึงมีการหารือกับกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากการบำบัดต้องใช้สาธารณสุขนำ โดยหลังจากนี้ กรมคุมประพฤติ จะเสนอศาล เพื่อเพิ่มเงื่อนไขให้เข้ารับการบำบัดด้วย ซึ่งเมื่อเพิ่มการบำบัด ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการคัดกรองของสาธารณสุขต่อไป