สิงคโปร์แอร์ไลน์ แถลงผ่านเฟซบุ๊กทางการว่า เที่ยวบินของสิงคโปร์แอร์ไลน์ SQ321 ซึ่งบินออกจากสนามบินฮีทโธรว์ กรุงลอนดอน เพื่อเดินทางไปยังสิงคโปร์เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567 เผชิญกับสภาพอากาศแปรปรวนอย่างรุนแรงระหว่างเส้นทาง ทำให้เครื่องบินลำดังกล่าวต้องเปลี่ยนเส้นทางไปลงกรุงเทพฯ และลงจอดเมื่อเวลา 15.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น เรายืนยันได้ว่ามีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต 1 รายบนเครื่องบินโบอิ้ง 777-300ER ที่มีผู้โดยสารทั้งหมด 211 คน และลูกเรือ 18 คน
สิงคโปร์แอร์ไลน์ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิต สิ่งสำคัญอันดับแรกของเราคือการให้ความช่วยเหลือที่เป็นไปได้ทั้งหมดแก่ผู้โดยสารและลูกเรือทุกคนบนเครื่องบิน เรากำลังทำงานร่วมกับหน่วยงานท้องถิ่นในประเทศไทยเพื่อให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ที่จำเป็น และส่งทีมงานไปที่กรุงเทพฯ เพื่อให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมที่จำเป็น
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากบมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท.ว่า เมื่อเวลา 15.35 น. ศูนย์รักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิได้รับแจ้งจากหอบังคับการบินว่า สายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ เที่ยวบิน SQ321 เส้นทางฮีทโธรว์ - ชางงี ประเทศสิงคโปร์ มีผู้โดยสารจำนวน 211 คน และลูกเรือจำนวน 18 คน ขอลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เนื่องจากมีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตบนเครื่องบิน ซึ่งมีสาเหตุเกิดจากสภาพอากาศแปรปรวน และเครื่องบินตกหลุมอากาศ ขณะทำการบินบนน่านฟ้าไทย ส่งผลให้เบื้องต้นมีมีผู้โดยสารชาวต่างชาติเสียชีวิต 1 ราย และกำลังอยู่ระหว่างยืนยันจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ
ทั้งนี้ เครื่องบินลำดังกล่าว ได้ลงจอดฉุกเฉินที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเมื่อเวลา 15.51 น. ซึ่ง ทสภ. ได้ส่งทีมแพทย์เข้าพื้นที่ พร้อมทั้งให้การช่วยเหลือและปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินโดยทันที โดยมีการนำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตส่งโรงพยาบาลสมิติเวช ศรีนครินทร์ ส่วนผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยหรือไม่ได้รับบาดเจ็บนั้น ทสภ. ได้นำตัวผู้โดยสารเข้ามาพักรอภายในอาคารเทียบเครื่องบิน โดยมีเจ้าหน้าที่ ทสภ. ร่วมกับสายการบินฯ คอยดูแลและอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร เพื่อรอเดินทางไปยังสิงคโปร์ต่อไป โดยคาดว่า เครื่องบินจากชางฮี จะเดินทางมาถึงประเทศไทยในเวขาประมาณ 21.45 น.
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ตนได้สั่งการให้ ทอท. พร้อมเข้าช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกผู้โดยสาร และลูกเรือของสายการบินที่เหตุดังกล่าวอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งกำชับให้ทุกหน่วยงานด้านการบิน รวมถึงทุกสายการบินเน้นย้ำด้านความปลอดภัยสูงสุด เนื่องจากในช่วงเวลานี้ มีสภาพอากาศแปรปรวน และฝนตกหนักในบางพื้นที่
นายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ทอท. กล่าวว่า เหตุดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บวิกฤติ 7 ราย บาดเจ็บปานกลาง 23 ราย รวมลูกเรือ 1 ราย บาดเจ็บปานกลางรวม 9 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 16 ราย และบาดเจ็บเล็กน้อยอยู่บริเวณ Holding Area 30 ราย ยืนยันว่าขณะนี้มีผู้เสียชีวิตเพียง 1 ราย เป็นชาวต่างชาติ อายุ 73 ปี สาเหตุเบื้องต้นทราบว่าเป็นโรคหัวใจ อยู่ระหว่างการชันสูตรต่อไป