นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับทราบญัตติมาตรการป้องกัน ฟื้นฟู และเยียวยาผลกระทบจากสถานการณ์โรงงานผลิตพลุ และดอกไม้เพลิงระเบิด
โดยสภาผู้แทนราษฏร ได้พิจารณาญัตติเกี่ยวกับมาตรการป้องกัน สร้างความปลอดภัย และแก้ไขเยียวยาความเสียหายจากกรณีโรงงานผลิตดอกไม้เพลิง และข้อเสนอแนะแนวทางป้องกัน กอบกู้ ฟื้นฟูเยียวยาอุบัติการณ์โรงงาน-โกดังเก็บพลุระเบิด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน โดยสภาผู้แทนราษฎรเห็นว่า กฎเกณฑ์ที่ใช้ควบคุมยังไม่รัดกุมเพียงพอ ประกอบกับมีผู้ประกอบการรายย่อยจำนวนมาก ลักลอบจำหน่ายดอกไม้เพลิงโดยไม่ได้รับอนุญาต จึงมีข้อสังเกตและข้อเสนอแนะ ดังนี้
1. การปรับปรุงกฎหมาย ควรแก้ไขปรับปรุง พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิงและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน และผลักดันร่างกฎหมาย ว่าด้วยการรายงานการปล่อยและการเคลื่อนย้ายสารมลพิษสู่สิ่งแวดล้อม ซึ่งนิยามให้สถานประกอบการหมายความร่วมถึง โรงงานอุตสาหกรรม เพื่อให้ภาครัฐมีฐานข้อมูลมลพิษอย่างครอบคลุมและเป็นระบบ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และความเข้มแข็งของหน่วยงานรัฐ ในการประเมินสถานการณ์ปัญหามลพิษได้
2. บทบาทของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ควรเพิ่มบทบาทในการกำกับดูแลโรงงานผลิตดอกไม้เพลิง เช่น ควบคุมการผลิตในปริมาณที่เหมาะสมตามมาตรฐานโรงงาน
3. การเยียวยา ดำเนินการเยียวยา และชดเชยความสูญเสียของผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โรงงานพลุระเบิด
4. มาตรการในการตรวจสอบ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการในการตรวจสอบสถานประกอบการภายหลังจากได้รับใบอนุญาตว่ายังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานที่จะดำเนินการ
ทั้งนี้ มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักรับญัตติ และข้อสังเกตพร้อมทั้งข้อเสนอแนะ ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทาง และความเหมาะสมของข้อสังเกต และข้อเสนอแนะ และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ภายใน 30 วัน เพื่อเสนอ ครม. ต่อไป