นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ โฆษกกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สถานการณ์โรคฝีดาษวานร (ฝีดาษลิง) ในประเทศไทย ตั้งแต่พบผู้ติดเชื้อรายแรกในเดือนก.ค. 65 จนถึงวันที่ 20 พ.ค. 67 มีรายงานผู้ป่วยรวม 787 ราย เป็นเพศชาย 768 ราย (97%) ส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เชียงใหม่ ระยอง และอุดรธานี ตามลำดับ
จากข้อมูลตั้งแต่ต้นปี 67 ที่ผ่านมา มีการตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเป็นระยะ และเริ่มมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ตั้งแต่ช่วงกลางเดือนเม.ย. (หลังเทศกาลสงกรานต์) จนถึงเดือนพ.ค. จึงต้องเฝ้าระวัง พร้อมป้องกัน ลดเสี่ยง ลดโรค หากประชาชนมีประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้สงสัยฝีดาษลิง หรือการสัมผัสใกล้ชิด แนบแน่น กอดจูบ ลูบ คลำ พูดคุยระยะ 1 เมตร โดยไม่สวมหน้ากากอนามัย หรือเคยดูแลผู้ป่วยสงสัยฝีดาษลิง
ทั้งนี้ แนะนำให้สังเกตอาการตนเองเบื้องต้น ภายหลังสัมผัสผู้ป่วย หรือมีความเสี่ยงภายใน 21 วัน หากมีผื่น มีตุ่มน้ำ ตุ่มหนองขึ้นบริเวณอวัยวะเพศ ทวารหนัก หรือบริเวณรอบๆ มือ เท้า หน้าอก ใบหน้า ปาก มีไข้ ต่อมน้ำเหลืองโตบริเวณหลังหู คอ ขาหนีบให้เข้ารับการตรวจที่โรงพยาบาล หรือสถานบริการสุขภาพใกล้บ้านทันที เพื่อตรวจหาเชื้อได้ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย จากนั้นจะทราบผลตรวจภายใน 1-5 วัน
โดยระหว่างรอผลตรวจนั้น แนะนำให้แยกของใช้ส่วนตัว และแยกพื้นที่กับผู้ที่อยู่ร่วมบ้าน ที่พัก หรือสถานที่ทำงาน ไม่ใช้จาน ชาม ช้อน แก้วน้ำ และของใช้ต่างๆ ร่วมกับผู้อื่น และสวมหน้ากากอนามัยเพื่อป้องกันการส่งต่อเชื้อ เนื่องจากสามารถติดได้จากการสัมผัสใกล้ชิด พร้อมเน้นย้ำถึงผู้ป่วยโรคเรื้อรัง หรือภูมิคุ้มกันต่ำ หากมีอาการให้รีบพบแพทย์ทันที อย่าชะล่าใจเนื่องจากมีอาการรุนแรงได้
นพ.วีรวัฒน์ กล่าวว่า ประชาชนทุกคนไม่ควรประมาท โรคฝีดาษลิงติดได้ทุกคน หากมีพฤติกรรมเสี่ยง สามารถป้องกันโรคฝีดาษลิงได้ ดังนี้
1. หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนไม่รู้จัก
2. ไม่ใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกับผู้ป่วย เช่น เสื้อผ้า ผ้าขนหนู เครื่องนอน เป็นต้น
3. หลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่มีผื่นสงสัยโรคฝีดาษลิง
4. ไม่คลุกคลี หรือสัมผัสตุ่ม หนอง หรือบาดแผลของสัตว์ที่ติดเชื้อ ซากสัตว์ป่า และบริโภคเนื้อสัตว์ปรุงสุก โดยเฉพาะกลุ่มสัตว์ฟันแทะที่นำเข้าหรือมีถิ่นกำเนิดในทวีปแอฟริกาตอนกลาง เช่น หนูแกมเบียน กระรอกดิน
5. หมั่นล้างมือบ่อยๆ นอกจากนี้ การหลีกเลี่ยงไปในสถานที่ที่มีกิจกรรมการรวมตัว หรือกิจกรรมพบปะสังสรรค์ ที่อาจเสี่ยงติดโรคฝีดาษลิง ก็เป็นอีกวิธีที่สามารถป้องกันฝีดาษลิงได้