นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการสมทบเงินรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาลตัวเลข 3 หลัก หรือ N3 แล้ว คณะกรรมการบริหารจัดการสลากและการจัดการนวัตกรรม จะนัดประชุมภายในเดือนมิ.ย.นี้ เพื่อพิจารณาทบทวนใน 3 ประเด็นสำคัญ คือ การตั้งราคาจำหน่ายสลาก N3, การเปิดรับตัวแทนจำหน่าย และช่องทางการจำหน่ายสลาก N3
โดยในประเด็นราคาจำหน่ายนั้น จากที่ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นไปก่อนหน้านี้ ซึ่งเห็นว่าควรจำหน่ายในราคาใบละ 50 บาทนั้น แต่ทางสำนักงานสลากฯ มองว่าราคาอาจจะสูงเกินไป ซึ่งควรอยู่ในช่วง 20-50 บาท และเพื่อเป็นกลไกตลาดในการดึงให้ราคาสลากกินแบ่งรัฐบาล (L6) ลงมาอยู่ที่ 80 บาทได้ อีกทั้งจะช่วยปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนที่เล่นหวยใต้ดิน ให้เข้ามาสู่ระบบการซื้อสลากกินแบ่งที่ถูกกฎหมาย
ส่วนประเด็นเรื่องตัวแทนจำหน่ายนั้น อาจจะพิจารณาให้ผู้ที่ขายสลากดิจิทัล L6 อยู่แล้ว และเปิดรับผู้ขายสลากแบบ N3 อีกส่วนหนึ่ง โดยจะมีการกำหนดจำนวนผู้จำหน่าย N3 ในสัดส่วนระหว่างรายเก่ากับรายใหม่ ส่วนรูปแบบหรือช่องทางการจำหน่ายนั้น จะพิจารณาว่าควรเป็นการจำหน่ายผ่านแอป "เป๋าตัง" แบบเดิม หรือจะเป็นแอปฯ ใหม่ที่สำนักงานสลากฯ จะดำเนินการเอง หรืออาจเป็นรูปแบบผสมผสานที่สามารถซื้อได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ และจุดขายเฉพาะ
"การตัดสินการดำเนินงาน น่าจะครบถ้วนในไตรมาสที่ 3 และหลังจากนั้น จึงจะเริ่มต้นทำ Sandbox คือการเปิดจำหน่ายจริงแบบจำกัดจำนวน ประมาณไตรมาส 4 การจำหน่ายสลาก L6 แบบใบ และแบบดิจิทัล มีวงเงินประมาณ 8 พันล้านบาท/งวด โดยการจำหน่ายสลาก N3 และการออกรางวัล จะเป็นแบบ 2 งวดเช่นเดียวกับสลาก L6 คือวันที่ 1 และ 16 ของทุกเดือน เราคาดว่าวงเงินต่องวดไม่ควรเกิน 8 พันล้านบาทสำหรับ N3 จะลองเปิดเริ่มต้นก่อน อาจเป็น 100 หรือ 500 หรือ 1,000 ล้านบาท แล้วศึกษาผลกระทบ ถ้าไม่มีผลกระทบกับการจำหน่ายสลาก L6 จึงจะเปิดจำหน่ายเต็มที่" โฆษกสำนักงานสลากฯ กล่าว
พร้อมยอมรับว่า ในปัจจุบันมีความกังวลจากผู้ค้าสลาก L6 แบบใบ ว่าจะได้รับผลกระทบหากมีการเปิดขายสลาก N3 ดังนั้น สำนักงานสลากฯ จึงได้พิจารณาทดลองจำหน่ายในแบบ Sandbox ก่อน เพื่อดูว่าผู้ซื้อจะย้ายจากสลากแบบ L6 มาเป็นสลากแบบ N3 หรือไม่ ถ้าสุดท้ายแล้วพบว่ามีการย้ายจากการซื้อสลาก L6 มาเป็นสลาก N3 และทำให้มูลค่าตลาดของสลาก L6 หดตัวลงจริง สำนักงานสลากฯ อาจจะจำกัดวงเงินการออกสลากแบบ N3 ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม แต่ถ้าผลสรุปว่าไมมีผลกระทบกับสลาก L6 เพราะเป็นคนละผลิตภัณฑ์ สำนักงานสลากฯ ก็จะเปิดขายสลากแบบ N3 อย่างเต็มรูปแบบต่อไปในอนาคต