นายเรืองศักดิ์ สุขเสียงศรี ทนายความของนายชนินทร์ เย็นสุดใจ อดีตผู้บริหาร บมจ.สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น (STARK) และผู้ต้องหาคดีฉ้อโกงหุ้น STARK เปิดเผยว่า นายชนินทร์ ไม่ได้ต้องการหลบหนี และอยากกลับประเทศไทยเพื่อมาสู้คดี
ส่วนมีการออกข่าวว่าทางการจับกุมตัวนายชนินทร์ได้นั้น เท่าที่ตนทราบ นายชนินทร์ต้องการกลับบ้าน และน่าจะมีข้อตกลงว่าเป็นการขอกลับบ้าน มากกว่าการถูกจับกุม เพราะที่ดูไบมีนักโทษหนีคดีอยู่มาก ถ้ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) หรือเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเอาจริง ก็สามารถจับกุมได้ทั้งนั้น ดังนั้นเชื่อว่าเป็นการมอบตัวเพื่อกลับมาสู้คดีมากกว่า เพราะทุกอย่างในคดี มาลงอยู่ที่นายชนินทร์ทั้งหมดเลย
พร้อมกันนี้ ยังปฏิเสธกระแสข่าวที่ว่ามีการส่งเงิน 8,000 ล้านบาทไปที่อังกฤษ ว่าไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด
"ผมเคยไปดูสำนวน ทุกคนบอกนายชนินทร์ทำผิดทั้งนั้นเลย ผมก็ยังสงสัย ถ้าคุณชนินทร์ทำผิดจริง มีบางคนทำผิดแบบคุณชนินทร์ ทำไมสั่งไม่ฟ้อง แต่ทำไมมาฟ้องคุณชนินทร์ เงินบางคนสุจริต คุณชนินทร์ไม่สุจริตหรือ ทำอะไรควรให้มันมีมาตรฐานเหมือนกัน" นายเรืองศักดิ์ กล่าว และระบุว่า นายชนินทร์ ไม่ได้มีความกังวล และยังก็คุยกันปกติว่าเจอกันที่เมืองไทย
ส่วนกรณีที่นายชนินทร์ ถูกคุกคามนั้น นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบว่ามีการถูกคุกคามจากที่ไหน เพียงแต่ได้ข่าวกรณีของนายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงิน บมจ.สตาร์คฯ ที่โดนจับไปก่อนหน้านี้ ให้การว่าถูกคุกคามเอาชีวิต ดังนั้นนายชนินทร์ ก็อาจจะโดนเหมือนกัน ถึงได้ออกไปต่างประเทศ
สำหรับการยื่นประกันตัวนั้น นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องกะทันหันจึงยังไม่ได้เตรียมหลักทรัพย์ไว้ ทั้งนี้ จะทำตามระเบียบขั้นตอนศาลทุกอย่าง ไม่ได้มีเจตนาจะฝ่าฝืนคำสั่งศาล และเชื่อในความยุติธรรมของศาล อย่างไรก็ดี ไม่แน่ใจว่าศาลจะให้ประกันตัวหรือไม่ เพราะทุกคนที่โดนจับก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้รับการประกันตัว ดังนั้นหากศาลจะมีคำสั่งอย่างไร ก็ต้องยอมรับสภาพ และจะปฏิบัติตามระเบียบของศาลทุกอย่าง
ส่วนการให้คำปรึกษาแก่นายชนินทร์ ในช่วงที่อยู่ต่างประเทศนั้น นายเรืองศักดิ์ กล่าวว่า นายชนินทร์ไม่ได้บอกกับตน แต่พูดกับครอบครัว ซึ่งจริงๆ ตนอยากบอกว่าไม่ควรจะหนี เพราะไม่ได้ทำความผิด
ทนายความยังกล่าวถึงการร้องขอความเป็นธรรมของนายชนินทร์ด้วยว่า ในระหว่างที่นายชนินทร์อยู่ต่างประเทศ ได้ส่งคำร้องให้ตนไปยื่นที่ดีเอสไอ และอัยการ แต่ไม่ได้รับการพิจารณา แค่เพียงรับเรื่องไว้เท่านั้น เพราะผู้ต้องหาไม่ได้มายื่นคำร้องด้วยตัวเอง ทั้งนี้ ในเนื้อหาคำร้องปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำความผิด และได้ให้ข้อเท็จจริงไปทุกอย่าง ทั้งเส้นทางการเงิน อำนาจในการบริหาร บมจ.สตาร์คฯ โดยชี้แจงไปตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ
พร้อมกับยืนยันว่า ในคดีนี้มีช่องทางต่อสู้คดีอยู่แล้ว แต่ขอตั้งคำถามว่าเหตุใดบางคนไม่โดนฟ้องในข้อหาเดียวกัน ทั้งที่ความผิดเดียวกัน เส้นทางการเงินเหมือนกัน ซึ่งการสั่งไม่ฟ้องก็ต้องมีเหตุผล ดังนั้นจะเอาข้อเท็จจริงนี้มาใช้ต่อสู้คดี
"อยากฝากถึงทุกคนที่อยู่ในกระบวนการสอบสวนสืบสวน ขอให้ความเป็นธรรมด้วย ในชั้นอัยการก็เช่นกัน ถ้าเห็นเหตุผลของนายชนินทร์ที่ยื่นเข้าไป ถ้าสมควรสั่งไม่ฟ้องได้ ก็สมควรจะสั่งไม่ฟ้อง แต่ถ้าฟ้อง ก็จะต่อสู้คดี อันนี้ก็แล้วแต่ศาลจะพิจารณา" นายเรืองศักดิ์ กล่าว