น.ส.จิราพร สินธุไพร รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ปัจจุบัน มีประชาชนจำนวนมากได้สะท้อนความเดือดร้อนจากการสั่งซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ หรือแอปพลิเคชั่นช็อปปิงออนไลน์ มายังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) หลายกรณี เช่น ผู้บริโภคไม่ได้สั่งซื้อสินค้า แต่มีพัสดุจัดส่งไปยังที่บ้าน โดยมีการเรียกเก็บเงิน ณ ที่จัดส่งปลายทาง และกรณีที่ผู้บริโภคสั่งซื้อสินค้าแล้วเกิดปัญหาในรูปแบบต่างๆ แต่กลับไม่สามารถติดต่อผู้ขายได้ หรือติดต่อได้แต่ไม่ได้รับการแก้ไข
นอกจากนี้ ยังมีกรณีที่ผู้บริโภคเลือกชำระเงินค่าสินค้าโดยการเก็บเงินปลายทาง แต่เมื่อเกิดปัญหา กลับไม่ได้รับเงินคืน เนื่องจากผู้ให้บริการขนส่งสินค้าให้เหตุผลว่า จ่ายเงินให้กับผู้ขายสินค้าไปแล้ว ทำให้ผู้บริโภคได้รับความเสียหาย
ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ปัญหาให้กับผู้บริโภค ล่าสุด คณะกรรมการว่าด้วยสัญญา ภายใต้ สคบ. ได้มีมติเห็นชอบร่างประกาศคณะกรรมการว่าด้วยสัญญา "เรื่อง ให้ธุรกิจการให้บริการขนส่งสินค้าโดยเรียกเก็บเงินปลายทาง เป็นธุรกิจที่ควบคุมรายการในหลักฐานการรับเงิน พ.ศ. ...." ซึ่งจะลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาในเดือนก.ค.นี้
รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กฎหมายฉบับนี้จะช่วยแก้ปัญหาให้นักช้อปออนไลน์ โดยการใช้ "มาตรการส่งดี (Dee-Delivery)" ให้ผู้ประกอบธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้า ต้องระบุรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ส่งสินค้า และผู้ประกอบธุรกิจ ชื่อ-สกุลผู้รับเงิน พร้อมหมายเลขติดตามพัสดุ พร้อมกำหนดให้ผู้ให้บริการขนส่งสินค้า ถือเงินค่าสินค้าเป็นระยะเวลา 5 วันก่อนนำส่งเงินให้กับผู้ขาย เพื่อให้ผู้บริโภคมีโอกาสแจ้งเหตุที่ขอคืนสินค้า และขอเงินคืน
นอกจากนี้ ยังให้สิทธิผู้บริโภคสามารถเปิดดูสินค้าก่อนชำระเงินได้ โดยหากพบว่ามีปัญหาตามที่กล่าวมา ผู้บริโภคสามารถปฏิเสธการชำระเงินและไม่รับสินค้าได้