กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นสร้างความเสียหายต่อข้อมูลส่วนบุคคล ทรัพย์สิน และส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา (19-25 ก.ค.) พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 851,933 ข้อความ ซึ่งมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 248 ข้อความ โดยข่าวปลอมที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุด คือ เรื่อง "ปปง.เปิดเพจแจ้งความออนไลน์ชื่อว่า ศูนย์รับเรื่อง-ลงทะเบียนและตรวจสอบเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์" รองลงมาคือเรื่อง "ปปง.เปิดให้ลงทะเบียนรับเงินคืนผ่านเพจศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ AOC"
สำหรับช่องทางที่พบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความจาก Social Listening จำนวน 204 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 43 ข้อความ และผ่านช่องทาง Facebook จำนวน 1 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 209 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 102 เรื่อง ในจำนวนนี้มีข่าวปลอมที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมออนไลน์ที่ประชาชนให้ความสนใจมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่
อันดับที่ 1 : เรื่อง ปปง. เปิดเพจแจ้งความออนไลน์ ชื่อว่า ศูนย์รับเรื่อง-ลงทะเบียนและตรวจสอบเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์
อันดับที่ 2 : เรื่อง ปปง. เปิดให้ลงทะเบียนรับเงินคืน ผ่านเพจศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ AOC
อันดับที่ 3 : เรื่อง เพจกระทรวงยุติธรรมปรึกษากฎหมาย รับเรื่อง ร้องเรียน ร้องทุกข์ เป็นเพจที่กระทรวงยุติธรรมจัดทำขึ้น
อันดับที่ 4 : เรื่อง กระทรวงยุติธรรมเปิดเพจ Rescue crime เพื่อแจงขั้นตอน ยื่นคุ้มครองสิทธิ ขอเงินคืน
อันดับที่ 5 : เรื่อง พม. เปิดเพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ตรวจสอบ-ลงทะเบียนเพื่อรับเงินคืนจากคดีออนไลน์
อันดับที่ 6 : เรื่อง ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้ผู้ลงทุนโอนเงินเพื่อขอรับรองหรือรับประกันวงเงินซื้อขายหลักทรัพย์
อันดับที่ 7 : เรื่อง กรมการจัดหางาน เปิดช่อง TikTok @dy18ozezoiod
อันดับที่ 8 : เรื่อง ลงทะเบียนรับทรัพย์สินคืนจากอาชญากรรมออนไลน์ ผ่านเพจ ศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ ? ETDA
อันดับที่ 9 : กรมพัฒนาฝีมือแรงงานเปิดเพจเฟซบุ๊กใหม่ เพื่อรับสมัครงาน
อันดับที่ 10 : เรื่อง TikTok ศูนย์มาตรฐานฝีมือแรงานโฮมโปร สร้างช่างมืออาชีพตามมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ
เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่เกี่ยวกับอาชญากรรมออนไลน์จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าทั้งหมดเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับหน่วยงานรัฐ ซึ่งทำหน้าที่การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ และการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะอันดับ 1 และ 2 เป็นข่าวปลอมที่แอบอ้างหน่วยงานของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ซึ่งได้ตรวจสอบข้อมูลแล้ว ทั้งเพจและคลิปสั้นดังกล่าวเป็นข้อมูลปลอม ซึ่งมิจฉาชีพได้ตัดต่อคลิปจากข่าวที่สื่อมวลชนเผยแพร่และนำมาเพิ่มเติมข้อความ เพื่อหลอกผู้เสียหายจากคดีฉ้อโกงให้หลงเชื่อส่งข้อมูลและโอนเงินให้ตามที่อ้างว่าจะดำเนินเรื่องช่วยเหลือ โดย ปปง.ไม่เคยเปิดให้ผู้เสียหายทุกรายคดียื่นคำร้องผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ทุกช่องทาง ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อ หรือแชร์ข้อมูล ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อข้อมูลส่วนตัวบุคคล และทรัพย์สิน หรือหากมีการแชร์ เผยแพร่ต่อ ๆ กันไป อาจกระทบต่อประชาชนส่วนใหญ่ในสังคมได้