น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติให้กรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2567 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน 867.812 ล้านบาท เพื่อดำเนินโครงการซ่อมแซมอาคารชลประทาน ที่ได้รับความเสียหายเนื่องจากอุทกภัย ปี พ.ศ.2567 รวม 227 รายการ
เนื่องจากในช่วงปี 66 เกิดอุทกภัยจากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังแรง พาดผ่านภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังค่อนข้างแรง ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันภาคใต้ และอ่าวไทย ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง ส่งผลกระทบให้อาคารชลประทานต่าง ๆ ได้รับความเสียหาย ไม่สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ประชาชนได้รับความเดือดร้อน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของทั้งประเทศในด้านภาคการเกษตร ภาคอุปโภคบริโภค และภาคอุตสาหกรรม
ในการประชุมคณะกรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติ (ก.ช.ภ.จ.) ร่วมกับหน่วยงานทุกภาคส่วนของจังหวัด เพื่อให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติเป็นไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ คณะกรรมการฯ ได้มีมติรับรองความเสียหายของอาคารชลประทาน ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ ขอนแก่น ร้อยเอ็ด สุราษฎร์ธานี พัทลุง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องดำเนินการซ่อมแซมควบคุมอาคาร และระบบชลประทานโดยเร่งด่วน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงเสนอพิจารณาอนุมัติงบกลางฯ เพื่อดำเนินการดังกล่าว