จากสถานการณ์อุทกภัยที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศไทยในขณะนี้ ทำให้เกิดข้อกังวลของประชาชนว่า สถานการณ์จะมีความรุนแรงเทียบเท่ากับที่เคยเกิดในปี 54 และจะส่งผลกระทบให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินเป็นจำนวนมาก
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประเมินสถานการณ์อุทกภัย 3 ปี ปี 54 ปี 65 และปี 67 เปรียบเทียบจำนวนพายุ ปริมาณฝน พื้นที่กักเก็บน้ำ และปริมาณน้ำท่า โดยเชื่อมั่นสถานการณ์ไม่รุนแรงเท่าปี 54 เพียงแต่อยู่ระหว่างเปลี่ยนผ่านเข้าลานีญา ย้ำทุกภาคส่วนต้องเฝ้าระวังและไม่ประมาท คาดยังมีพายุอีก 2 ลูกช่วงเดือน ก.ย.-ต.ค.
- ในปี 54 มีพายุพัดผ่านเข้าไทย จำนวน 5 ลูก
- ในปี 65 มีพายุพัดผ่านเข้าไทย จำนวน 1 ลูก ได้แก่ พายุโนรู (เดือน ก.ย.) และยังได้รับอิทธิพลจากพายุดีเปรสชันและไต้ฝุ่นที่เข้ามาบริเวณประเทศเพื่อนบ้าน
- ในปี 67 คาดการณ์ว่าจะมีพายุพัดผ่านเข้าประเทศไทย จำนวน 2 ลูก โดยมีโอกาสสูงที่จะเคลื่อนผ่านบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคเหนือในช่วงเดือนก.ย. หรือต.ค.
- ปี 54 ฤดูฝนในประเทศไทยเริ่มต้นเร็วกว่าปกติ และมีฝนตกสะสมต่อเนื่อง โดยไม่มีภาวะฝนทิ้งช่วง ปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งปีสูงกว่าค่าปกติ 24% และมีค่ามากที่สุดในคาบ 61 ปี (นับจาก พ.ศ.2494)
- ปี 65 มีปริมาณฝนเฉลี่ยทั้งประเทศ 1,876 มม. สูงกว่าค่าปกติ 27% หรือมากที่สุดเมื่อเทียบกับข้อมูลในอดีตย้อนหลัง 40 ปี ซึ่งหมายรวมถึงมากกว่าปี 54 ที่ประเทศไทยเกิดอุทกภัยร้ายแรง แต่ในปี 65 กลับพบว่า สถานการณ์อุทกภัยไม่รุนแรงและยาวนานเหมือนปี 54
- ปี 67 ณ เดือนส.ค. นี้ปริมาณฝนในภาพรวมของประเทศไทย ยังคงต่ำว่าค่าปกติ 4% และต่ำกว่า ปี 54
- ปี 54 สามารถรองรับได้ 4,647 ล้าน ลบ.ม.
- ปี 65 สามารถรองรับ 11,929 ล้าน ลบ.ม.
- ปี 67 ยังสามารถรองรับน้ำได้อีก 12,071 ล้าน ลบ.ม.
- ปี 54 สถานี C.2 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,284 ลบ.ม./วินาที (ค่าสูงสุด 4,689 ลบ.ม./วินาที) และการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 1,832 ลบ.ม./วินาที (ค่าสูงสุด 3,726 ลบ.ม./วิ)
- ปี 65 สถานี C.2 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,582 ลบ.ม./วินาที (ค่าสูงสุด 3,099 ลบ.ม./วินาที) และการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 1,500 ลบ.ม./วินาที (ค่าสูงสุด 3,169 ลบ.ม./วินาที)
- ปี 67 ปริมาณน้ำท่ายังคงอยู่ในการควบคุมและเป็นไปตามแผน คือ ที่สถานี C.2 มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 837 ลบ.ม./วินาที (คาดว่าจะสูงสุด 2,860 ลบ.ม./วินาที) และการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา (C.13) 499 ลบ.ม./วินาที (คาดว่าสูงสุด 2,700 ลบ.ม./วินาที)
เลขาธิการ สนทช.กล่าวว่า เนื่องจากปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ปรากฏการณ์เอนโซ จากสภาวะเอลนีโญสู่สภาวะลานีญา ประกอบกับอิทธิพลของมรสุมทำให้เกิดฝนตกหนักสะสมในพื้นที่ต่าง ๆ และส่งผลให้เกิดน้ำหลากในหลายพื้นที่ จากการติดตามประเมินสถานการณ์และแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่างใกล้ชิดของหน่วยงานต่าง ๆ พบว่า ปริมาณฝนตกในทุกพื้นที่ขณะนี้ระดับความรุนแรงยังเทียบไม่ได้กับปี 54 อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องเฝ้าระวังและเตรียมแผนบริหารจัดการกรณีเกิดพายุที่อาจจะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยด้วย