น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้หยิบยกประเด็นสถานการณ์อุทกภัยหารือในที่ประชุม และได้มีการตั้งศูนย์อำนวยการสถานการณ์อุทกภัยในรูปแบบของคณะกรรมการ โดยมีนายภูมิธรรม เป็นประธาน และนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เป็นรองประธานฯ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ เป็นรองประธานฯ
โดยการแก้ปัญหาต้องแบ่งเป็น 3 ระดับ คือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้าว่าจะระบายน้ำอย่างไรไม่ให้ผลกระทบลุกลามไปมากกว่านี้ และหลังน้ำลดจะช่วยเหลือเยียวยาประชาชนอย่างไรบ้าง และการแก้ปัญหาในระยะยาวที่จะต้องเป็นวาระแห่งชาติในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ซึ่งเมื่อมี ครม.ชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศแล้วจะบรรจุเป็นวาระเร่งด่วน เพื่อดำเนินการรับมือกับสถานการณ์ได้ทันต่อไป
"หน้าที่มีทั้งการป้องกัน แก้ไข เยียวยา และฟื้นฟู ซึ่งต้องดูสถานการณ์ในรายจังหวัด เช่น จังหวัดน่านสถานการณ์น้ำท่วมผ่านไปแล้วจะเข้าสู่กระบวนการเยียวยาและฟื้นฟู ส่วนจังหวัดที่น้ำยังมาไม่ถึงจะป้องกันอย่างไร เช่น จังหวัดนครสวรรค์ หรือต่ำกว่านั้นก็ต้องหามาตรการป้องกัน แก้ไขไม่ใช่ทำงานเชิงรับ" น.ส.นัทรียา กล่าว
ขณะที่การใช้งบประมาณของศูนย์อำนวยการสถานการณ์อุทกภัย นายภูมิธรรม จะเป็นผู้พิจารณาจากข้อมูลที่แต่ละฝ่ายเสนอมา โดยจะใช้จากงบกลางฯ ในการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อน แต่จังหวัดที่ประกาศภัยพิบัติจะมีงบทดลองจ่ายที่สามารถใช้ได้จำนวน 20 ล้านบาท หากไม่เพียงพอต้นสังกัดก็จะของบกลางตามขั้นตอนต่อไป โดยยืนยันว่างบกลางฯ ได้เตรียมการไว้อย่างเพียงพอและไม่ทับซ้อนกับงบประมาณที่จะใช้ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เมื่อมีคณะกรรมการชุดนี้ขึ้นมาแล้วจะช่วยให้การดำเนินการทุกอย่างรวดเร็ว ตอบสนองต่อความเดือดร้อนของประชาชนอย่างทันท่วงที
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ยืนยันจะไม่เกิดน้ำท่วมเหมือนปี 2554