นายศึกษิษฏ์ ศรีจอมขวัญ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เปิดเผยผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า นายภูมิธรรม เวชชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี ได้สั่งการในที่ประชุมครม. ว่า จากปัญหาประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือ ให้เร่งสำรวจพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียหาย และเร่งรัดมาตรการเพื่อช่วยเหลือประชาชนโดยเร็ว ที่สำคัญต้องมีการซ่อมแซมสถานที่ราชการให้แล้วเสร็จ เพื่อให้การบริการประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งให้หน่วยงานจัดทำแผนฟื้นฟู และเตรียมแผนฉุกเฉินในอนาคตด้วย
โดยที่ประชุมครม. ได้อนุมัติรายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เป็นวงเงิน 2,289 ล้านบาท เพื่อให้กรมชลประทาน ใช้ในการพัฒนาแหล่งน้ำทั้งหมด 1,072 โครงการ ทั้งนี้ เนื่องจากอิทธิพลของพายุ ฝนตก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากที่ผ่านมา ส่งผลให้อาคารชลประทานต่าง ๆ ที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทาน ได้รับความเสียหายจากกระแสน้ำกัดเซาะ ทำให้การระบายน้ำไม่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังมีตะกอนดินที่กระแสน้ำพัดมา เศษกิ่งไม้ต่าง ๆ เข้ามาอุดตันคลองส่งน้ำ หรือระเบียงน้ำ ทำให้ไม่สามารถระบายน้ำได้อย่างรวดเร็ว
กรมชลประทาน จึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำงบฯ ดังกล่าว ไปซ่อมแซม ปรับปรุงอาคารชลประทาน รวมถึงการกำจัดวัชพืช ขุดลอก ซ่อมแซมเครื่องจักรต่าง ๆ เพื่อให้สามารถเตรียมความพร้อมกับการบริหารจัดการน้ำในปัจจุบัน และเตรียมความพร้อมสำหรับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
นอกจากนี้ ครม. ยังมีมติเห็นชอบการจัดสรรงบประมาณรายจ่าย เงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน 3,017 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัย และภัยพิบัติ เนื่องจากเหตุอุทกภัย ทำให้เส้นทางคมนาคมเสียหายหลายจุด
กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวงแผ่นดิน และทางหลวงชนบท จึงได้มีการของบฯ เพื่อเร่งนำไปปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ กรมทางหลวงมีทั้งหมด 207 รายการ ใน 26 จังหวัด กรมทางหลวงชนบทมีทั้งหมด 101 รายการ 1,667 ล้านบาท ใน 30 จังหวัด โดยเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งรัดที่ครม. ให้ความสำคัญ เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ระบบคมนาคมขนส่งได้อย่างมีประสิทธิภาพเหมือนเดิม