กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) รายงานสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,328 ครัวเรือน ขณะที่ จ.เชียงราย และ จ.ตาก ระดับน้ำยังเพิ่มขึ้น เร่งประสานพื้นที่ดูแล และช่วยเหลือประชาชน พร้อมส่งเจ้าหน้าที่ เครื่องจักรกลสาธารณภัย และวัสดุอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง เข้าสนธิกำลังร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เร่งคลี่คลายสถานการณ์
นายไชยวัฒน์ จุนถิระพงศ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า จากอิทธิพลของร่องมรสุมกำลังปานกลาง พาดผ่านภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำ บริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และอ่าวตังเกี๋ย ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้ และลมตะวันตกเฉียงใต้ในระดับบน ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่งผลทำให้ระหว่างวันที่ 16 ส.ค.-11 ก.ย. 67 มีสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก ในพื้นที่ 27 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ ตาก พะเยา น่าน ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ เลย อุดรธานี หนองคาย หนองบัวลำภู ปราจีนบุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ระยอง ภูเก็ต ยะลา นครศรีธรรมราช พังงา ตรัง และสตูล รวม 120 อำเภอ 535 ตำบล 2,844 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 83,501 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 26 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 19 ราย
โดยปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 11 ก.ย. 67) ยังคงมีสถานการณ์ในพื้นที่ 7 จังหวัด รวม 17 อำเภอ 97 ตำบล 450 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 14,328 ครัวเรือน ดังนี้
1. เชียงราย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.แม่สาย อ.ขุนตาล และ อ.พญาเม็งราย รวม 4 ตำบล 27 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,276 ครัวเรือน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
2. เชียงใหม่ เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่อาย รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 คน ผู้สูญหาย 4 ราย จากสาเหตุดินถล่ม
3. ตาก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.แม่สอด รวม 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ระดับน้ำเพิ่มขึ้น
4. สุโขทัย เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.กงไกรลาศ รวม 3 ตำบล 20 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 361 ครัวเรือน ระดับน้ำลดลง
5. พิษณุโลก เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 3 อำเภอ ได้แก่ อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ และ อ.เมือง รวม 7 ตำบล 15 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 576 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
6. อ่างทอง เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ อ.วิเศษชัยชาญ รวม 3 ตำบล 14 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 343 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
7. พระนครศรีอยุธยา เกิดน้ำท่วมในพื้นที่ 7 อำเภอ ได้แก่ อ.บางบาล อ.บางปะหัน อ.ผักไห่ อ.เสนา อ.พระนครศรีอยุธยา อ.บางปะอิน และ อ.บางไทร รวม 78 ตำบล 372 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 11,772 ครัวเรือน ระดับน้ำทรงตัว
สำหรับการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย ปภ.ได้ประสานจังหวัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนอย่างเร่งด่วน โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัย อาทิ เครื่องสูบส่งน้ำระยะไกล เครื่องสูบน้ำ รถเคลื่อนย้ายผู้ประสบภัย และรถผลิตน้ำดื่ม เพื่อระบายน้ำบรรเทาความเดือดร้อนและผลิตน้ำดื่มสะอาดแจกจ่ายให้แก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องระบายน้ำออกจากพื้นที่ลงสู่พื้นที่อื่น ได้กำชับ ปภ.จังหวัด ประสานเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการดำเนินการ โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนเป็นสำคัญ และเลือกใช้วิธีการที่ส่งผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด พร้อมกันนี้ ยังได้สนับสนุนถุงยังชีพรวมแล้วกว่า 10,000 ชุด แจกจ่ายให้แก่ประชาชนผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้น
สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว ได้มีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัยให้กลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาดำเนินชีวิตได้ตามปกติโดยเร็วที่สุด รวมถึงจัดเจ้าหน้าที่เข้าสำรวจ และจัดทำบัญชีความเสียหาย เพื่อดำเนินการช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังต่อไป
ในส่วนของพื้นที่เสี่ยงภัย ที่แม้ปัจจุบันยังไม่เกิดสถานการณ์อุทกภัยขึ้น ปภ. ได้ประสานจังหวัดให้จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด พร้อมแจ้งเตือนประชาชนทันทีที่มีแนวโน้มเกิดสถานการณ์ภัยในพื้นที่ รวมถึงจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ เครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้พร้อมเข้าเผชิญเหตุ และช่วยเหลือประชาชนทันทีที่เกิดสถานการณ์ภัยขึ้น