น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ ภายหลังแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยระบุว่า ในวันพรุ่งนี้ (13 ก.ย.) จะเดินทางลงพื้นที่จังหวัดเชียงรายพร้อมกับรัฐมนตรีบางส่วน ขอให้ผู้ดูแลสถานการณ์ในพื้นที่ช่วยพิจารณาประเมินสถานการณ์อีกครั้ง พร้อมกำชับว่าไม่ต้องจัดคนมาต้อนรับ แต่ขอให้เป็นเรื่องการจัดเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกเรื่องเส้นทางในพื้นที่เท่านั้นพอ
ทั้งนี้ ยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจในการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนที่ประสบความเดือดร้อนจากเหตุการณ์น้ำท่วม ซึ่งรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีทุกคน ได้ดำเนินการล่วงหน้าในการดูแลประชาชนไปก่อนแล้ว ซึ่งปัญหานี้ไม่ใช่ของใครคนใดคนหนึ่ง ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพื่อที่จะทำให้ประชาชนออกจากปัญหาอุปสรรคให้เร็วที่สุด พร้อมขอส่งความห่วงใยไปให้ประชาชนภาคเหนือ โดยเฉพาะที่จังหวัดเชียงราย ซึ่งแน่นอนว่าจะต้องทำเรื่องระบบการเตือนภัย และการเยียวยารักษาต่อไป
"เชื่อว่า ทุกท่านที่อยู่ในคณะรัฐมนตรีเป็นห่วงพี่น้องประชาชน แต่เราก็ไม่อยากให้การลงพื้นที่ ไปขัดต่อการดำเนินการช่วยเหลือใด ๆ และขอว่าไม่ต้องมาต้อนรับ ขอให้เป็นเรื่องการจัดเจ้าหน้าที่มาอำนวยความสะดวกเรื่องเส้นทางในพื้นที่พอ เพราะเป็นเหตุการณ์ที่เข้าใจอยู่แล้วว่าไม่สามารถจะมาต้อนรับอะไรทั้งสิ้น ขอให้ความช่วยเหลือระบบราชการที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอยู่หน้างานกับพี่น้องประชาชน จะประสานพื้นที่ลงให้เร็วที่สุดเมื่อสามารถทำได้ และไม่ขัดต่อการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน" น.ส.แพทองธาร กล่าว
สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดเชียงราย นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้รายงานผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ที่กองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ส่วนหน้า) จังหวัดเชียงรายว่า ที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย สถานการณ์หนักหน่วงที่สุดในรอบ 80 ปี สาเหตุเนื่องจากในปีนี้แม่สายน้ำท่วมมา 7 ครั้ง รวมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 8 ตั้งแต่เดือนส.ค.จนถึงก.ย. สาเหตุที่น้ำท่วมหนัก มาจากฝนตกเป็นระยะทำให้ลำน้ำแม่สาย รวมทั้งพื้นดิน ทั้งฝั่งประเทศไทยและประเทศเพื่อนบ้านชุ่มน้ำ และอิ่มน้ำ ซึ่งเมื่อได้รับผลกระทบจากหางพายุยางิ ทำให้ปริมาณน้ำมีจำนวนมหาศาล ก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างที่ตลาดแม่สาย
น.ส.แพทองธาร ได้สั่งการเพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชนให้เร็วที่สุดตอนนี้ ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย กระทรวงกลาโหม และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จะดูแลในเรื่องของการอพยพประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มเปราะบางต้องช่วยกันขนย้ายผู้คนออกมาให้เร็วที่สุดอย่างปลอดภัย รวมทั้งสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ ด้วย นอกจากนี้ ให้สนับสนุนเรื่องอาหาร เครื่องดื่มให้เพียงพอ รวมทั้งอาหารของสัตว์เลี้ยง พร้อมกับฝากกระทรวงสาธารณสุข ในการจัดยารักษาโรคเท้าเปื่อยให้กับประชาชนด้วย
ส่วนการกำหนดภารกิจช่วยเหลือประชาชน เช่น การดูแลการดำรงชีพ ตั้งศูนย์พักพิง ประกอบอาหาร ศูนย์การแพทย์สาธารณสุข อุปกรณ์เครื่องมือ แต่ละหน่วยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด และรัฐบาลพร้อมจัดสรรงบกลางที่จะช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยอยากให้ทุกฝ่ายคำนึงถึงการช่วยเหลือประชาชนเป็นหลัก และช่วยรักษาชีวิตพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วนที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงกลาโหม ยังมีเรื่องของระบบเตือนภัย ซึ่งในหลายพื้นที่มีระบบเตือนภัยแล้วและยังสามารถทำงานได้ แต่ทราบว่ายังมีประชาชนไม่อยากออกจากที่พักอาศัย เพราะเป็นห่วงทรัพย์สิน จึงอยากบอกประชาชนว่า รัฐบาลพร้อมจะดูแลและเยียวยาประชาชน แต่ขอให้ประชาชนตระหนักถึงการรักษาชีวิตตัวเองก่อน และออกมาจากพื้นที่ประสบภัยให้เร็วที่สุด
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า เมื่อน้ำลดแล้ว ขอให้ทุกส่วนราชการสำรวจตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้นกับระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ เช่น ถนน สะพาน ระบบไฟฟ้า ประปา และดำเนินการปรับปรุงให้เข้าสู่สภาวะปกติโดยเร็ว พร้อมมอบหมายให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย ช่วยตรวจสอบและเสริมความมั่นคงแข็งแรงในเรื่องโครงสร้างของคันกั้นน้ำ และระบบระบายน้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ชุมชน พื้นที่เศรษฐกิจสำคัญ โดยเร่งรัดปรับปรุงให้สามารถกลับมาใช้งานได้โดยเร็ว
พร้อมกันนี้ ขอให้กรมทรัพยากรธรณีเร่งรัดดำเนินการที่เกี่ยวกับระบบเตือนภัยในพื้นที่ที่เสี่ยงภัยสูงโดยด่วน เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบล่วงหน้า และเตรียมการให้ทันเวลา ตลอดจนจัดให้มีการซักซ้อมและให้ความรู้กับประชาชนด้วย
สำหรับส่วนผู้ที่ประสงค์จะร่วมบริจาค ให้พิจารณาการใช้เงินจากกองทุนและการตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยมอบหมายสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ช่วยกันพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาน้ำในแต่ละพื้นที่ในระยะยาวต่อไป
นายกฤชนนท์ อัยยปัญญา โฆษกกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า ได้รับรายงานจากหน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมในพื้นที่ว่า ขณะนี้ ระดับน้ำยังคงท่วมสูงในหลายพื้นที่ โดยมีประชาชนติดอยู่ภายในบ้านและอาคารเป็นจำนวนมาก จึงได้มอบหมายกรมเจ้าท่าจัดส่งเรือขนาดเล็ก และเรือท้องแบน รวมถึงเจ็ทสกี เพื่อเข้าช่วยเหลือและอพยพประชาชนอย่างเร่งด่วน
นอกจากนี้ ยังได้ประสานและบูรณาการกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมในทุกระยะ หากจุดใด มีแนวโน้มน้ำท่วมสูง จะต้องเร่งดำเนินการติดตั้งป้ายเตือนทันที และหากทางขาด ต้องติดตั้งสะพานเบลีย์โดยเร็วที่สุด รวมถึงหากเกิดดินสไลด์ ต้องเตรียมอุปกรณ์และเครื่องจักรเข้าให้พร้อมแก้ไขในทันที
นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) กล่าวว่า ภายในท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย(ทชร.) มีน้ำท่วมเฉพาะบริเวณทางเข้าสนามบินและบ้านพักพนักงาน แต่น้ำไม่ได้เข้าไปถึงอาคารผู้โดยสาร ลานจอดอากาศยาน และทางวิ่งทางขับ แม้ว่าจะมีการตัดกระแสไฟฟ้า แต่ ทชร.มีระบบไฟสำรองที่เพียงพอต่อการให้บริการ ดังนั้น เครื่องบินยังสามารถทำการบินขึ้น-ลงได้ และขอยืนยันว่า ทชร.ยังสามารถให้บริการผู้โดยสารและเที่ยวบินได้ เพื่อเป็นศูนย์กลางในการเดินทางให้กับผู้โดยสาร และเป็นหน่วยงานกลางในการให้ความช่วยเหลือ