นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดหนองคายว่า ขณะนี้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องและน้ำล้นตลิ่งสูง 1.16 เมตร มีพื้นที่การเกษตรและบ้านเรือนประชาชนริมน้ำโขงได้รับผลกระทบ จำนวน 5 อำเภอ 19 ตำบล 67 หมู่บ้าน ไม่มีรายงานประชาชนได้รับบาดเจ็บ สูญหาย หรือเสียชีวิต รวมถึงยังไม่มีรายงานหน่วยบริการสาธารณสุขได้รับความเสียหาย
สำหรับการช่วยเหลือผู้ป่วยติดเตียงและกลุ่มเปราะบางในพื้นที่เสี่ยง พบว่า ทั้ง 9 อำเภอของหนองคายมีผู้ป่วยติดบ้านติดเตียงรวม 1,812 ราย มีการประสานหน่วยงานต่าง ๆ ร่วมกันช่วยเหลือเคลื่อนย้ายผู้ป่วยในพื้นที่ 5 อำเภอเสี่ยง ได้แก่ อำเภอเมืองหนองคาย อำเภอท่าบ่อ อำเภอโพนพิสัย อำเภอสังคม และอำเภอศรีเชียงใหม่ รวมทั้งหมด 21 ราย แบ่งเป็น ย้ายไปบ้านญาติ 18 ราย ไปศูนย์พักพิง 1 ราย และไปโรงพยาบาลที่สำรองเตียงรับย้ายผู้ป่วยที่ประสบภัย 2 ราย โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้ป่วยหญิงอายุ 81 ปี มีโรคสมองเสื่อม ได้เคลื่อนย้ายไปยังโรงพยาบาลโพนพิสัย
ส่วนการเฝ้าระวังป้องกันสถานการณ์นั้น สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดหนองคายได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (PHEOC) กรณีอุทกภัย พร้อมสั่งการทุกอำเภอในพื้นที่เสี่ยงให้เปิด PHEOC เฝ้าระวังป้องกัน และให้การดูแลช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จัดเตรียมยาและเชภัณฑ์ต่างๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการ รวมถึงเฝ้าระวังป้องกันโรคที่มากับน้ำท่วม และให้การดูแลด้านจิตใจผู้ประสบภัย เพื่อป้องกันภาวะเครียดด้วย
ขณะที่ โรงพยาบาลหนองคาย ออกประกาศวันนี้ว่า เนื่องด้วยสถานการณ์น้ำท่วม ทางโรงพยาบาลหนองคายจะให้บริการ "เฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉินเท่านั้น" เพื่อความปลอดภัยและการบริหารจัดการทรัพยากรทางการแพทย์อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดหนองคาย ประกาศตัดการจ่ายกระแสไฟฟ้าในพื้นที่น้ำท่วมเขตเทศบาลเมือง เพื่อความปลอดภัยของประชาชน หลังน้ำเริ่มท่วมตู้มิเตอร์ เคเบิ้ลใต้ดิน(ตั้งริมฟุตบาท)
ด้านเพจเฟซบุ๊กเทศบาลเมืองหนองคาย แจ้งเตือนว่า คาดการณ์ระดับน้ำโขงวันที่ 15 กันยายน 2567 อาจจะสูงถึง 14.05 เมตร ขอให้เคลื่อนย้ายทรัพย์สินของมีค่าหรือสัตว์เลี้ยงขึ้นที่สูงหรือพื้นที่ปลอดภัย