จาก พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 ซึ่งเป็นกฎหมายตำรวจฉบับใหม่นั้น ได้กำหนดให้ต้องมีกฎของคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ว่าด้วยการแต่งตั้ง ซึ่งลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาไปเมื่อวันที่ 5 เม.ย.67 และจะมีผลบังคับใช้ใน 180 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 2 ต.ค.67 ทำให้กระบวนการแต่งตั้งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และข้าราชการทุกระดับ จะเริ่มต้นในวันที่ 3 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป
สำหรับขั้นตอนการเลือก ผบ.ตร. ตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. 2565 นายกรัฐมนตรี จะเป็นผู้คัดเลือกรายชื่อเสนอให้ที่ประชุม ก.ตร.ให้ความเห็นชอบ โดยคุณสมบัติที่กำหนดไว้ 2 เงื่อนไข คือ 1.ต้องมียศเป็นพลตำรวจเอก 2.ตำแหน่งต้องเป็นรอง ผบ.ตร. หรือ จเรตำรวจแห่งชาติ ซึ่งต้องคำนึงถึงอาวุโสและความสามารถประกอบกัน โดยเฉพาะในงานสืบสวนสอบสวน และงานป้องกันปราบปราม
ดังนั้น เมื่อพิจารณาตามคุณสมบัติดังกล่าว จะมี รอง ผบ.ตร.ที่เข้าเกณฑ์ 3 ราย คือ
1. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ อาวุโสลำดับที่ 1 เกิดวันที่ 8 ธันวาคม 2508 จบมัธยมศึกษาที่ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดราชบุรี ปริญญาตรี จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 41 นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 25 เกษียณอายุราชการปี 2569
สำหรับผลงานที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายและถูกวางตัวให้รับผิดชอบงานสำคัญหลายอย่าง ในส่วนงานบริหาร แต่สิ่งที่ทำให้โดดเด่นมากที่สุด คือ การลงมาจับงานด้านการปราบปราม อาทิ นโยบายการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนเป้าหมาย ตามโครงการปิดล้อมตรวจค้นชุมชนแพร่ระบาดยาเสพติดในพื้นที่กรุงเทพฯ "เด็ดปีกนักค้า รักษาผู้เสพ สร้างชุมชนปลอดภัยยาเสพติด" ซึ่งมีการจับกุมยาเสพติดบิ๊กล็อตในหลายจังหวัดทั่วประเทศ
2. พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง อาวุโสลำดับที่ 2 เกิดวันที่ 10 พฤศจิกายน 2507 จบปริญญาตรี จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 39 นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 23 เกษียณอายุราชการปี 2568
สำหรับผลงานที่โดดเด่น คือ เป็นผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปนม.ตร.) ซึ่งได้ประกาศว่าในยุคของตนจะต้องไม่มีเรื่องการทุจริต การเรียกรับผลประโยชน์ หลังเกิดเหตุการณ์เรือน้ำมันเถื่อนของกลาง หายจากท่าเรือตำรวจน้ำ อำเภอสัตหีบ จนมีการจับกุมผู้ที่เกี่ยวข้องได้
3. พล.ต.อ.ธนา ชูวงศ์ อาวุโสลำดับที่ 3 เกิดวันที่ 22 ตุลาคม 2508 จบปริญญาตรี จากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่น 42 นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ 26 เกษียณอายุราชการปี 2569
สำหรับผลงาน พล.ต.อ.ธนา ถือเป็นหนึ่งในแคนดิเดตที่ผ่านงานโรงพัก ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ ก.ตร. กำหนดไว้อย่างเต็มรูปแบบ มีประสบการณ์ทั้งด้านบู๊และบุ๊น ด้วยประสบการณ์ตั้งแต่เป็นผู้กำกับพื้นที่ จนขยับดูแลทั้งภาค อีกทั้งมีความโดดเด่นด้านงานสืบสวน จากการดูแลคดีสำคัญในหลายคดี เช่น เครือข่ายเว็บพนันออนไลน์