จับตาส่งท้ายฤดูฝน! เฝ้าระวัง ปลายก.ย. มีพายุเติมอีกระลอก

ข่าวทั่วไป Wednesday September 25, 2024 18:35 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

จับตาส่งท้ายฤดูฝน! เฝ้าระวัง ปลายก.ย. มีพายุเติมอีกระลอก

นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง รองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมติดตามและประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ว่า ในการประชุมวันนี้ ได้มีการคาดการณ์และเฝ้าระวังฝนที่จะตกลงมาเพิ่มอีก เนื่องจากพบการก่อตัวของพายุในบริเวณหมู่เกาะฟิลิปปินส์คาดว่าจะเคลื่อนตัวไปยังเกาะไต้หวัน ถึงแม้ว่าพายุจะไม่เข้าประเทศไทยโดยตรง แต่อาจส่งผลให้ในช่วงวันที่ 30 ก.ย. - 1 ต.ค. 67 จะเกิดฝนตกในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก

ทั้งนี้ ในช่วงที่ผ่านมาได้มีการประชุมศูนย์อำนวยการน้ำส่วนหน้าในพื้นที่ภาคเหนือ (ลุ่มน้ำยมน่าน) พื้นที่ภาคกลาง และพื้นที่ภาคตะวันออก โดยหน่วยงานทั้งในส่วนกลาง และในพื้นที่ ได้วางแผนเตรียมความพร้อมในเรื่องต่างๆ แล้ว ได้แก่ เพิ่มประสิทธิภาพการคาดการณ์ฝนล่วงหน้าให้มีความแม่นยำมากที่สุด, การประเมินปริมาณน้ำในพื้นที่หน่วงน้ำ เช่น ทุ่งบางระกำ ทุ่งโพธิ์พระยา เพื่อเตรียมรองรับน้ำฝนที่ตกมาเพิ่ม, เร่งซ่อมแซมอาคารชลศาสตร์ เครื่องจักรเครื่องมือ และคันกั้นน้ำที่พังทลายในช่วงที่ผ่านมา, เฝ้าระวังและบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่า 80% ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ และเกิดผลกระทบประชาชนน้อยที่สุด, เร่งระบายน้ำในแม่น้ำต่าง ๆ รวมถึงเตรียมความพร้อมในพื้นที่ริมแม่น้ำ, ทบทวนเกณฑ์การแจ้งเตือนสถานี Early-Warning บริเวณที่มีความลาดชันสูงให้มีความรัดกุม และทันต่อสถานการณ์, ทำความร่วมมือกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการแจ้งเตือนประชาสัมพันธ์เส้นทางสัญจรที่ถูกน้ำท่วม ให้มีระบบแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เปราะบางตามริมแม่น้ำ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่เคยได้รับผลกระทบและยังไม่ได้ซ่อมแซมคันกั้นน้ำ

"แม้จะมีการคาดการณ์ว่าปลายเดือน ก.ย.ปริมาณฝนจะเริ่มลดลง แต่ทุกหน่วยงานก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากสภาพภูมิอากาศมีความแปรปรวนสูงมาก หลายพื้นที่ที่เพิ่งผ่านอุทกภัยช่วงที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการฟื้นตัว และหลายพื้นที่ยังมีความชื้นในดินสูง หากมีฝนตกเพิ่ม แม้มีปริมาณไม่มาก แต่ก็จะส่งผลกระทบในพื้นที่ซ้ำได้" นายไพฑูรย์ กล่าว

พร้อมระบุว่า ในช่วงเวลานี้ ทุกหน่วยงานจึงต้องร่วมมือกันเร่งบริหารจัดการมวลน้ำจากภาคเหนือที่ไหลลงสู่พื้นที่ตอนล่าง โดยบริหารจัดการเป็นลุ่มน้ำ เพื่อเก็บน้ำเข้าอ่างเก็บน้ำต่าง ๆ ให้เพียงพอในฤดูแล้งที่จะถึงนี้ และต้องระบายน้ำส่วนเกินลงสู่พื้นที่ตอนล่างโดยไม่กระทบต่อประชาชนในพื้นที่

โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้เสนอปรับลดการระบายน้ำในเขื่อนสิริกิติ์ จากเดิม 20 ล้าน ลบม./วัน เป็น 15 ล้าน ลบม./วัน เพื่อช่วยลดผลกระทบต่อท้ายน้ำ แต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่อาจเกินความจุเก็บกักได้ ในขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา มีแผนปรับเพิ่มการระบายน้ำเพื่อรองรับมวลน้ำจากภาคเหนือ โดยปรับการระบายน้ำระหว่าง 1,500 - 2,000 ลบ.ม./วินาที ทั้งนี้ ในการปรับแผนการระบายน้ำทุกครั้งจะต้องมีการแจ้งเตือนประชาชนได้ทราบล่วงหน้า เพื่อเตรียมตัวรองรับได้ทันท่วงที


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ