นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ประชุมหารือในเรื่องความปลอดภัยทางถนนเมื่อวานนี้ (7 ต.ค.) ได้ข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบความปลอดภัยของรถโดยสารที่ติดแก๊สทั้ง CNG และ NGV รวมประมาณ 13,000 คัน ให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน โดยให้หยุดการนำรถดังกล่าวมาใช้งานจนกว่าจะได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเรียบร้อยแล้ว
กรมการขนส่งทางบก ได้ออกประกาศให้ผู้ประกอบการรถโดยสารที่ใช้ก๊าซ CNG และ LPG ทั่วประเทศ ต้องนำรถเข้ามาตรวจสภาพรถ โดยมาตรฐานการตรวจสภาพรถต้องตรวจผ่านตาม Check list อาทิ เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบต้องมีความมั่นคงแข็งแรง ไม่ชำรุด เช่น ถังก๊าซต้องไม่บุบ บวม ผุกร่อน เหล็กรัดถังและสกรูยึดขาถังต้องยึดอย่างมั่นคงแข็งแรง ตัวถังก๊าซต้องไม่หมดอายุตามวันที่ผู้ผลิตกำหนด หมายเลขถังก๊าซและจำนวนถังก๊าซต้องตรงกับที่ปรากฏอยู่ในระบบงานตรวจสภาพรถของกรมฯ รวมถึงตรวจสอบอุปกรณ์เพื่อความปลอดภัย ประตูฉุกเฉิน ทางออกฉุกเฉิน ประตูทางขึ้น - ลง เข็มขัดนิรภัย ค้อนทุบกระจก เครื่องดับเพลิง ต้องมีขนาด จำนวนและการติดตั้งถูกต้องระเบียบ พร้อมใช้งาน
หากรถโดยสารที่เข้ามาตรวจสภาพรถแล้วไม่ผ่านการตรวจสภาพ เช่น ถังก๊าซหมดอายุ จำนวนถังไม่ตรงกับที่ปรากฎอยู่ในระบบงานตรวจสภาพของกรมฯ เครื่องอุปกรณ์และส่วนควบชำรุด ตรวจพบการรั่วไหลของก๊าซ และตรวจพบน้ำหนักเกิน กรมการขนส่งทางบกจะพ่นข้อความห้ามใช้จนกว่าจะนำรถไปแก้ไขก่อนและนำมาตรวจสภาพให้ถูกต้องอีกครั้ง จึงจะสามารถนำรถกลับมาใช้ใหม่ได้
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกกำชับ!!! ให้ผู้ประกอบการต้องนำรถโดยสารเข้ามาตรวจสภาพรถให้แล้วเสร็จ ตั้งแต่วันนี้จนถึง 30 พฤศจิกายน 67 โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
สำหรับการตรวจสภาพรถโดยสารในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เนื่องด้วยมีปริมาณรถมากกรมการขนส่งทางบกได้จัดทำแผนบริหารจัดการรถที่เข้าตรวจสภาพเพื่อบรรเทาการจราจรไม่ให้ติดขัด ดังนี้
1.รถโดยสารไม่ประจำทางขนาดใหญ่ (CNG) + รถตู้/รถมินิบัส ไม่ประจำทางและประจำทาง (CNG) เฉพาะใน กทม. ให้ตรวจสภาพรถให้แล้วเสร็จภายใน 31 ตุลาคม 2567
2. รถโดยสารประจำทางขนาดใหญ่ (รถบัส CNG) ให้ตรวจสภาพรถให้แล้วเสร็จภายใน 30 พฤศจิกายน 2567
3. รถที่ติดตั้ง (LPG) ให้ตรวจสภาพรถให้แล้วเสร็จภายใน 30 พฤศจิกายน 2567
ทั้งนี้ กรมการขนส่งทางบกประสานไปยังกระทรวงศึกษาธิการในกรณีที่โรงเรียนจะมีการจัดทัศนศึกษาและเดินทางด้วยรถโดยสาร ขอความร่วมมืองดเว้นการใช้รถโดยสารในกลุ่มดังกล่าวในการเดินทางจนกว่ามาตรการตรวจรถโดยสารนี้จะแล้วเสร็จเพื่อความปลอดภัยรวมถึงจะบูรณาการร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ สถานศึกษาทั่วประเทศ ในกรณีมีความจำเป็นต้องใช้รถเช่าเหมาหรือรถโดยสารไม่ประจำทาง (30) นำนักเรียนไปทัศนศึกษาหรือเดินทางนอกพื้นที่ ขอให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานสำนักงานขนส่งจังหวัดตรวจสอบความพร้อมของรถและซักซ้อมมาตรการความปลอดภัยก่อนออกเดินทางทุกครั้ง
ขณะที่นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม รายงานว่า ได้สั่งการให้กรมเจ้าท่าตรวจสอบเรือโดยสารทั่วประเทศจำนวน 15,000 ลำ และเรือภัตตาคารที่วิ่งตามลำน้ำต่าง ๆ ทั่วประเทศทั้งหมด 108 ลำ โดยให้ไปตรวจสอบใน 2 ส่วน คือ 1.การใช้แก๊สปรุงอาหาร ซึ่งอาจมีการติดตั้งถังแก๊สในจุดที่ไม่เหมาะสม และ 2.การใช้แก๊สเป็นเชื้อเพลิงยานยนต์ โดยให้ตรวจสอบละเอียดแล้วกลับมารายงานต่อที่ประชุม ครม.ต่อไป