นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า ด้านปลอดภัย เปิดเผยว่า ปัจจุบันกรมเจ้าท่า ได้เตรียมรับมือและเฝ้าระวังระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ที่อาจส่งผลกระทบต่อการเดินเรือ โดยจะดูแลการเดินเรือในแม่น้ำเป็นหลัก เมื่อมีห้วงเวลาฤดูน้ำหลากหรือน้ำทะเลหนุน กรมเจ้าท่าได้ออกประกาศ ทั้งในส่วนเรือลากจูง โดยจะต้องมีการลากจูงในความเร็วที่เหมาะสม ขณะเดียวกันจะต้องมีเรือพ่วงท้าย (เรือโต่ง) ตลอดเวลา ซึ่งเรือลากจูงปกติจะมีความยาวประมาณเกือบ 200 เมตร โดยการเดินเรือลากจูงจะต้องมีความชำนาญและดำเนินการตามมาตรการที่กรมเจ้าท่ากำหนด เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
ส่วนเรือด่วนเจ้าพระยา เรือไฟฟ้าในแม่น้ำเจ้าพระยา จะเข้มงวดเรื่องการใช้ความเร็ว โดยปกติในแม่น้าเจ้าพระยากำหนดให้ใช้ความเร็วไม่เกิน 30 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
นอกจากนี้ ได้เร่งรัดการดำเนินงานการขุดลอกร่องน้ำ เพื่อช่วยทำให้การระบายน้ำ การเดินเรือสะดวกและเดินเรือได้ตลอด รวมทั้งการกำจัดผักตบชวาเป็นปัญหาหนึ่ง ถือว่าเป็นวาระสำคัญที่กรมเจ้าท่าต้องรับผิดชอบ โดยได้แบ่งพื้นที่รับผิดชอบกับกรมโยธาธิการและผังเมือง และท้องถิ่น ส่วนกรมเจ้าท่าจะรับผิดชอบแม่น้ำเจ้าพระยา แม่น้ำป่าสัก แม่น้ำน้อย แม่น้ำลพบุรี แม่น้ำสะแกกรัง และแม่น้ำท่าจีนสายเก่า หากกำจัดผักตบชวาแล้วเสร็จจะทำให้สิ่งกีดขวางการเดินเรือลดลงและเกิดความปลอดภัยในการเดินเรืออีกด้วย
ส่วนกรณีที่เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่และทิศทางน้ำอาจจะเปลี่ยนไป ต้องปรับแผนขุดลอกร่องน้ำ เพื่อลดความเสี่ยงในการดำเนินงานนั้น กรมเจ้าท่าได้ดำเนินการขุดลอกร่องน้ำ เพื่อเปิดทางน้ำ เกิดการเดินเรือและการระบายน้ำที่เหมาะสมและเพียงพอต่อปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น