นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 ต.ค.นี้ เวลา 15.00 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการอำนวยการและบริหารสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (คอส.) โดยมี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เพื่อติดตามและรับฟังความคืบหน้าการปฏิบัติงานของ ศปช.และ ศปช.ส่วนหน้า ในการแก้ปัญหาสถานการณ์อุทกภัย การฟื้นฟูพื้นที่ประสบภัย การช่วยเหลือเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และอุปสรรคในการทำงาน
สำหรับภาพรวมสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือขณะนี้
จ.เชียงราย อยู่ระหว่างการฟื้นฟูและกู้พื้นที่หลังน้ำลด เกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว
จ.เชียงใหม่ยังมีน้ำท่วมในพื้นที่ต.หนองแฝก อ.สารภี ซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำที่อยู่ท้ายน้ำ ทำให้มีน้ำขังนานกว่าพื้นที่อื่น หลายหน่วยงานเร่งสูบน้ำออกจากพื้นที่โดยเร็ว ขณะเดียวกันก็เดินหน้าฟื้นฟูสภาพแวดล้อมให้กลับสู่สภาพเดิมเร็วที่สุด
จ.ลำพูน ขณะนี้มีน้ำท่วมขังรอการระบาย บริเวณบ้านหลุก หมู่ที่ 8 (หลังสวนกาญจนาภิเษกฯ) ต.เหมืองง่า อ.เมืองลำพูน ซึ่งชลประทานจ.ลำพูน เพิ่มเครื่องสูบน้ำระบายด้านท้ายน้ำ เพื่อเร่งระบายน้ำลงแม่น้ำกวงและแม่น้ำปิง ที่ยังสามารถรองรับการระบายจากพื้นที่ท่วมขังได้
ส่วนพื้นที่ภาคใต้ นายจิรายุ กล่าวด้วยว่า ในระยะนี้ ต้องเฝ้าระวัง หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์สภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้ ร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนบน ทำให้มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับหลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ซึ่งในหลายจังหวัดภาคใต้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยนายสมชาย ลีหล้าน้อย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สั่งการให้ทุกหน่วยบูรณการเตรียมพร้อมรับมืออุทกภัย ทั้งการตั้งรับการบริหารสถานการณ์ และเตรียมพร้อมศูนย์อพยพ-จุดปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยง เช่นเดียวกับที่จ.ตรังเตรียมพร้อมรับมือ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำ ทั้งแม่น้ำตรัง คลองปะเหลียน คลองนางน้อย พื้นที่เสี่ยงใน 10 อำเภอ พื้นที่ชายฝั่งทะเลและเกาะแก่งต่างๆ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดและหน่วยงานราชการต้องพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงที