พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เปิดเผยว่า ได้ทำการอายัดการทำธุรกรรมที่ดินของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด บริเวณอ.ลำลูกกา จังหวัดปทุมธานี จำนวน 3 แปลง เนื้อที่ที่ดินประมาณ 68 ไร่เศษ เนื่องจากตรวจสอบพบว่าบริษัทดังกล่าวมีการได้กรรมสิทธิ์ที่ดินในช่วงเวลาที่มีการประกอบธุรกิจตั้งแต่ปี 2564 - 2565 มูลค่าซื้อขายหลายร้อยล้านบาท ที่การข่าวระบุว่าผู้บริหารบริษัทฯ เตรียมขยายกิจการ อันมีเหตุต้องตรวจสอบการได้มาและได้ทำการอายัดการทำธุรกรรมที่ดินดังกล่าวไว้เป็นการชั่วคราวจนกว่าการตรวจสอบเสร็จสิ้น
ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ เร่งรัดการดำเนินการตรวจสอบสภาพที่ดินดังกล่าว มีหนังสือไปยังผู้มีอำนาจของบริษัทเพื่อชี้แจงข้อเท็จจริงถึงการได้มาต่อไป
พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า การอายัดที่ดินดังกล่าวไม่ได้ทำงานที่ซ้ำซ้อนกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) แต่ทำไปตามนโยบายของ รมว.ยุติธรรมให้ยึดข้อกฎหมายและอำนวยความยุติธรรมให้กับประชาชนที่ได้รับความเสียหาย แต่หลังมีข่าวว่ากรณีดังกล่าวอาจเข้าข่าย พ.ร.บ.กู้ยืมเงิน หรือแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ฟอกเงิน ที่อยู่ในอำนาจของดีเอสไอจึงต้องตั้งเรื่องสอบสวนเพื่อแสวงหาพยานหลักฐานเบื้องต้นว่าเข้าข่ายจริงหรือไม่เนื่องจากมีเหตุต้องสงสัย แม้ขณะนี้พนักงานสอบสวนของ บก.ปคบ.ระบุข้อหาฉ้อโกงประชาชนเท่านั้น
"เราไม่เคยมีความคิดหรือตั้งใจหรืออยากจะไปรับเรื่องมาดำเนินการ หากการดำเนินคดีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพอยู่แล้วคงไม่คิดที่จะดึงเรื่องมาทำเอง อยู่ที่กฎหมายจะบอกว่าเข้าเกณฑ์เข้าเงื่อนไขหรือไม่ เพราะเรื่องอำนาจสอบสวนเป็นเรื่องใหญ่ เมื่อเรารวบรวมพยานหลักฐานจะช่วยเสริมการทำงานให้กับตำรวจ ไม่ได้ซ้ำซ้อนหรือทำให้เกิดความเสียหายกับคดีแต่อย่างใด เป็นการร่วมบูรณาการกันทำ" พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าว
สำหรับหลักเกณฑ์ที่จะรับเป็นคดีพิเศษกรณีที่เข้าข่ายเป็นแชร์ลูกโซ่นั้น กฎหมายกำหนดความผิดที่มีมูลค่าความเสียหายตั้งแต่ 100 ล้านบาทขึ้นไป หรือมีผู้เสียหายตั้งแต่ 300 คนขึ้นไป โดยเป็นคดีที่มีความสลับซับซ้อน ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีต่อประชาชน
"พอเราตั้งเรื่องสอบสวน อำนาจเกิดแล้ว เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงแล้วก็จะถูกรายงานว่ายังเพิกเฉยไม่ทำอะไร แต่เมื่ออายัดแล้วตรวจสอบว่าเป็นความผิดแล้วผมส่งให้ ปปง.หรือ ปคบ.จะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากกว่า และเป็นการอายัดไว้เพื่อตรวจสอบเท่านั้น" พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าว
ส่วนกรณีที่มีข่าวการวางตัวบุคคลไว้ในดีเอสไอเพื่อช่วยเหลือบริษัทฯ นั้นจากการสอบถามแล้วยังไม่ความชัดเจนเพียงพอ ซึ่งตนได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเรื่องนี้แล้ว หากพบพยานหลักฐานยืนยันชัดเจนก็จะดำเนินคดีทั้งด้านวินัยและคดีอาญาอย่างเด็ดขาด