นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวถึงความคืบหน้าในการจัดตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ว่า เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน และมีผู้ที่ได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก โดยมีการกำหนดกรอบระยะเวลาในการตรวจสอบเป็นเวลา 30 วัน และจะต้องรายงานกลับเข้ามาเป็นระยะ
พร้อมเชื่อมั่นว่า คณะกรรมการชุดดังกล่าวจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนได้มากขึ้น และลบคำว่า "เทวดา สคบ." ให้ได้ เนื่องจากแต่ละคนมีประสบการณ์ และเคยทำคดีเกี่ยวกับเศรษฐกิจสำคัญมาหลายคดี จึงมีความมั่นใจ และตนได้สั่งการให้มีการดำเนินการด้วยความรัดกุม อย่าให้มีเรื่องของผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยหากมีการพาดพิงหรือใครที่อยู่ในข่ายต้องสงสัย จะต้องมีการดำเนินการอย่างเฉียบขาด ไม่ให้เกิดเรื่องการทุจริตในหน้าที่ เพราะถือว่าทำความเสียหายในวงกว้างต่อประชาชน
ส่วนที่มีรายชื่อของนักการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง นายประเสริฐ ยืนยันว่า คณะกรรมการชุดนี้ก็สามารถเรียกเข้ามาชี้แจงได้เช่นกัน ไม่ว่าจะปรากฏชื่อใคร จะเป็นใคร ไม่ต้องห่วง
ส่วนบุคคลในสคบ. ที่มีชื่อเข้าไปเกี่ยวข้อง จะต้องสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ขอให้ดูผลของการสอบของคณะกรรมการชุดนี้ก่อนว่าเป็นอย่างไร เพราะตนต้องการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่ไปฟังมาแล้วไปดำเนินการทันที เพราะต้องดูความชอบธรรมจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้รับความเสียหาย แต่ยืนยันไม่ปกป้องผู้กระทำความผิด
ด้านน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ล่าสุดได้พูดคุยกับพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) แล้ว ขณะนี้ต้องรอกระบวนการของศาลต่อไป ก็ให้เป็นไปตามกระบวนการตามกฎหมาย ยืนยันว่า ไม่ได้นิ่งนอนใจ พร้อมกำชับให้ดำเนินการอย่างจริงจังกรณีมีการโยงใยถึงเจ้าหน้าที่รัฐหลายหน่วยงานรับสินบน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ประชาชน