พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดีดิไอคอน กรุ๊ป ว่า การรับแจ้งความตั้งแต่วันที่ 9-17 ต.ค.67 รวม 9 วัน มีผู้เสียหายรวม 2,170 คน มูลค่าความเสียหาย 841 ล้านบาท
พล.ต.ต.โสภณ กล่าวว่า จะเร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดี ซึ่งขณะนี้ได้ฝากขังผู้ต้องหาตามกรอบของกฎหมาย ส่วนจะมีการแจ้งข้อหาเพิ่มหรือไม่ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ทั้งจากการสอบปากคำและพยานบุคคล โดยจะนำคำให้การมายังกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ทั้งนี้ตำรวจได้คัดแยกผู้เสียหายออกมาแล้วทั้งแม่ทีมและผู้เสียหาย
ส่วนกรณีการโอนสินทรัพย์ดิจิทัลได้แจ้งไปยังกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก.ปอศ.) ให้เข้ามาช่วยในการดำเนินคดี ซึ่งมีความชำนาญการก่ออาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์และสินทรัพย์ดิจิทัล
ขณะนี้ทรัพย์สินที่ยึดมาได้ทั้งหมด ได้แก่ 1.รถยนต์จำนวน 24 คัน 2.เงินสด 7.5 ล้านบาท 3.นาฬิกา 51 เรือน 4.กระเป๋าและสินค้าแบรนด์เนม รวมมูลค่า 210 ล้านบาท ซึ่งยังมีการขยายผลในการสืบทรัพย์ต่อ หลังพบบางส่วนมีการเคลื่อนย้ายทรัพย์ และผู้ที่ดำเนินการยักย้ายถ่ายเทอาจมีความผิดฐานฟอกเงินได้ กรณีการใช้นอมินีมาร่วมเป็นผู้เสียหายทางตำรวจก็ได้ทำการตรวจสอบต่อไป
ทั้งนี้ ตำรวจได้ทำงานควบคู่ไปกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) โดยขณะนี้ตำรวจยังไม่มีการแจ้งข้อหาฐานฟอกเงินผู้ต้องหาทั้ง 18 คน อยู่ระหว่างการสืบทรัพย์ รวมถึงขณะนี้ได้ประสานงานไปยังผู้เชี่ยวชาญ ทั้งสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) องค์การอาหารและยา (อย.) ในการร่วมตรวจสอบด้วย
ขณะที่การตรวจสอบเรื่องสินบนและคลิปเสียงที่เกี่ยวข้องนักการเมืองอยู่ในความรับผิดชอบของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก.ได้จัดทีมเจ้าหน้าที่เข้าดำเนินการสืบสวน รวบรวบพยานหลักฐาน ซึ่งจะรายงานความคืบหน้าในเรื่องนี้ต่อไป