นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ตนเองเห็นด้วยที่จะพิจารณาปรับค่าโดยสารให้กับรถโดยสารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) และรถร่วมบริการฯ อีก 1.50 บาท เนื่องจากสถานการณ์ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดราคาขายปลีกน้ำมันดีเซลขึ้นไปอยู่ที่ลิตรละ 35.74 บาท ซึ่งต้องรอมติที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมขนส่งทางบกกลางในวันที่ 20 พ.ค.นี้ก่อน
"เห็นด้วยที่จะปรับขึ้นค่าโดยสาร เนื่องจากขณะนี้ราคาน้ำมันได้ปรับขึ้นมามากกว่าหลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ประกอบกับรัฐบาลมีแนวทางเพิ่มค่าครองชีพให้กับข้าราชการ 5-6% ดังนั้นการที่จะอนุมัติให้ปรับขึ้นค่าโดยสารรถขนส่งสาธารณะ ผู้ใช้บริการคงเข้าใจถึงความจำเป็นของผู้ให้บริการ" นายทรงศักดิ์ กล่าว
ทั้งนี้ หากมีการอนุมัติให้ปรับค่าโดยสารขึ้นอีก 1.50 บาท จะทำให้ค่าโดยสารรถโดยสารธรรมดาครีม-แดงขึ้นจาก 7 บาทเป็น 8.50 บาท รถโดยสารครีม-น้ำเงินจาก 8.50 บาทเป็น 10 บาท ส่วนรถโดยสารปรับอากาศจะเพิ่มขึ้นช่วงละ 1 บาท จากเดิม 14-26 บาทเป็น 15-27 บาท
ส่วนการแก้ไขปัญหาขาดทุนสะสมของ ขสมก.นั้น รมช.คมนาคม กล่าวว่า ได้หารือกับนายพิเณศวร์ พัวพัฒนกุล ผู้อำนวยการ ขสมก.ถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาแล้ว โดยเฉพาะการลดต้นทุนการเดินรถที่ใช้ราคาน้ำมันเป็นฐานการคำนวณต้นทุนการเดินรถ ซึ่งทำให้ ขสมก.มีต้นทุนเดินรถสูงขึ้นตลอดเวลา ประกอบกับสภาพรถส่วนใหญ่ของ ขสมก.มีสภาพเก่า อายุเฉลี่ยถึง 11-15 ปี ทำให้สิ้นเปลืองค่าบำรุงรักษา
"ได้สั่งการให้ ขสมก.เร่งจัดทำแผนเปลี่ยนรถโดยสาร จากรถธรรมดามาเป็นรถปรับอากาศทั้งหมด และต้องใช้ก๊าซเอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิง โดยจะใช้วิธีเช่าแบบเหมาจ่ายจากเอกชนจำนวน 6,500 คัน" นายทรงศักดิ์ กล่าว
ปัจจุบัน ขสมก.มีรถโดยสารไว้ให้บริการประชาชนจำนวน 3,500 คัน และมีเส้นทางบริการ 115 เส้นทาง แต่หลังจากปรับเปลี่ยนรถโดยสารแล้วจะเพิ่มเส้นทางบริการมากขึ้นกว่า 300 เส้นทาง โดยครอบคลุมทั้งในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งคาดว่าจะกระตุ้นให้มีประชาชนมาใช้บริการเพิ่มขึ้น และจะใช้ระบบตั๋วอิเล็กทรอนิกส์ (E-Ticket) ราคา 30 บาท/คน/วัน เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้แก่ประชาชน ผู้โดยสาร ขสมก.ได้รับความสะดวกสบาย โดยในเบื้องต้นคาดว่าจะมีการจำหน่ายในราคา 30 บาทต่อคนต่อวัน
--อินโฟเควสท์ โดย คคฦ/ธนวัฏ/รัชดา โทร.0-2253-5050 ต่อ 317 อีเมล์: rachada@infoquest.co.th--