ฤกษ์ดี 11.11 ที่ไม่ใช่โปรลดกระหน่ำบนแพลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ แต่เป็นการประชุมคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการ และกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (บอร์ด ธปท.) ที่เลื่อนมาเป็นรอบที่ 3 จากกำหนดเดิมเมื่อวันที่ 16 ต.ค. และ 4 พ.ย. ซึ่งหลังใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง ได้เคาะรายชื่อบุคคลที่จะมาทำหน้าที่ประธานบอร์ด ธปท. เป็นที่เรียบร้อย แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยชื่อออกมาอย่างเป็นทางการ เนื่องจากต้องรอให้ผ่านขั้นตอนการนำเสนอต่อ รมว.คลัง ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ
ทุกสื่อรายงานตรงกันแบบไม่พลิกโผ ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก คือ "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีต รมว.คลัง ในสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ซึ่งเป็นรายชื่อที่เสนอโดยฝั่งของกระทรวงการคลัง ซึ่งมีทั้งเสียงสนับสนุนและเสียงคัดค้าน
ขณะที่หลังจากการคัดเลือกผ่านไป 1 วัน นายกิตติรัตน์ ได้ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก กรณีมีการเสนอข่าวการเลือกประธานบอร์ดธปท. โดยเนื้อหาระบุว่า "ทุกเสียงสนับสนุนคือกำลังใจ และทุกเสียงที่ติติงคัดค้านคือการเตือนใจ ให้คิดดี พูดดี และปฏิบัติดี"
ประเด็นร้อนนี้ ทำให้โลกโซเชียลต่างจับตาผลการคัดเลือกมาตั้งแต่ต้นเดือน พ.ย.ที่ผ่านมา โดย DXT360 แพลตฟอร์มติดตามข่าวสารและเสียงของผู้บริโภค (Social Listening) ของบริษัท ดาต้าเซ็ต จำกัด ได้รวบรวมการกล่าวถึงนายกิตติรัตน์ ในสื่อโซเชียลมีเดีย ในช่วงตั้งแต่วันที่ 1-13 พ.ย. 67 โดยมีจำนวนการกล่าวถึงและการมีส่วนร่วม หรือ Buzz (มาจากการกล่าวถึง (Mention) รวมกับการมีส่วนร่วม (Engagement) จำนวน 257,777 ครั้ง โดยอันดับ 1 มาจากช่องทาง YouTube 121,014 รองลงมา คือ Facebook 75,110 TikTok 52,357 Instagram 6,796 และ X 2,500
ชื่อของ "กิตติรัตน์" มีการกล่าวถึงมากที่สุดในวันที่ 4 และ 11 พ.ย. โดยในวันที่ 4 พ.ย. เป็นวันที่คณะกรรมการคัดเลือกประธานบอร์ดธปท. ได้ตัดสินใจเลื่อนการประชุมออกไปเป็นวันที่ 11 พ.ย.67 และในวันที่ 11 พ.ย. ชื่อของ "กิตติรัตน์" กลับมาเป็นกระแสอีกครั้งหนึ่งท่ามกลางกระแสคัดค้าน
ประเด็นที่โลกโซเชียลมีการคอมเมนต์ถึงความไม่เหมาะนั่งตำแหน่งประธานบอร์ด ธปท. อาทิ เคยมีตำแหน่งทางการเมือง มีความใกล้ชิดกับพรรคการเมือง, หวั่นแทรกแซงการทำงาน, ควรถอยเพื่อลดความขัดแย้ง, นึกถึงกรณี "White Lie", ยังไม่พ้นตำแหน่งทางการเมือง 1 ปี
ในขณะที่กลุ่มที่เห็นด้วย มองว่า เป็นผู้มีความรู้ ความสามารถ เหมาะสมกับตำแหน่ง,เชี่ยวชาญการเงินการคลัง มีประสบการณ์ด้านการเงินทั้งแบงก์ชาติ และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย, คุณวุฒิและวัยวุฒิเหมาะสม, โปรไฟล์ดีมาสายการเงินโดยเฉพาะ, วงการธุรกิจสนับสนุน, หวังเข้ามาแก้ดอกเบี้ย-ค่าเงินบาท
จากข้อกังวลของหลายฝ่ายว่าประธานบอร์ด ธปท.คนใหม่ จะเข้าไปแทรกแซงการทำงานของธปท.นั้น นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ ประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ ระบุว่า อำนาจหน้าที่ของประธานบอร์ด ธปท. ถูกกำหนดว่า มีหน้าที่ในการกำกับดูแลกิจการทั่วไปของ ธปท. โดยเฉพาะในเรื่องของงบประมาณ การกำกับโครงสร้างองค์กร ออกข้อบังคับบุคลากร และการจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานบริหารจัดการ จึงไม่มีหน้าที่หรืออำนาจในการเข้าไปแทรกแซงนโยบายการเงิน เรื่องดอกเบี้ยนโยบาย หรืออัตราเงินเฟ้อ เพราะภายใต้โครงสร้างของ ธปท.เอง มีคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.), คณะกรรมการสถาบันการเงิน (กนส.) และคณะกรรมการระบบการชำระเงิน (กรช.) ซึ่งทั้ง 3 คณะ ล้วนมีความเป็นอิสระในการดำเนินนโยบาย โดยไม่ได้อยู่ภายใต้คณะกรรมการธปท. หรือประธานบอร์ด ธปท. แต่อย่างใด
ทั้งนี้ ประธานคณะกรรมการคัดเลือกฯ จะนำชื่อผู้ที่ได้รับการคัดเลือกรายงานต่อนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ในวันที่ 19 พ.ย.นี้ ก่อนที่ รมว.คลัง จะนำเสนอต่อที่ประชุม ครม. เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ตามขั้นตอนต่อไป
จากนี้ไป หากในที่สุดแล้ว "กิตติรัตน์ ณ ระนอง" สามารถฝ่ากระแสต้าน ได้นั่งประธานบอร์ด ธปท.คนที่ 5 จริง การทำงานภายใต้หมวกใบนี้ คงต้องถูกจับจ้องจากสังคมอย่างไม่กระพริบตา