น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ได้สั่งการให้ติดตามผลกระทบจากพายุไต้ฝุ่น "หม่านหยี่" (MAN-YI) ซึ่งล่าสุดมีศูนย์กลางบริเวณตะวันออกของประเทศฟิลิปปินส์ คาดว่าจะเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ในวันพรุ่งนี้ (18 พ.ย.) และสลายตัวเมื่อเข้าใกล้ชายฝั่งเวียดนาม โดยกรมอุตุนิยมวิทยายืนยันว่าพายุดังกล่าวจะไม่มีผลกระทบต่อประเทศไทย
อย่างไรก็ตาม ในช่วงวันที่ 20-24 พ.ย.นี้จะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมาก ล่าสุดสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้ประกาศแจ้งเตือน 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จ.ปัตตานี (เมืองปัตตานี ปะนาเระ ยะหริ่ง ยะรัง หนองจิก สายบุรี มายอ ไม้แก่น) จ.นราธิวาส (เมืองนราธิวาส ตากใบ สุไหงโกลก สุไหงปาดี) จ.สงขลา (เมืองสงขลา จะนะ) และ จ.พัทลุง (เมืองพัทลุง เขาชัยสน บางแก้ว กงหรา ตะโหมด ปากพะยูน) ทั้งนี้ได้สั่งการให้กรมทรัพยากรธรณีไปวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงดินถล่ม เพื่อเป็นข้อมูลให้กับหน่วยงานในพื้นที่ได้เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนต่อไป
ขณะเดียวกัน กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่และเครื่องจักรกลในการเข้าพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือทันทีที่เกิดเหตุ ขณะเดียวกันได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของแนวกั้นน้ำรวมถึงศักยภาพการระบายน้ำตามจุดต่าง ๆ ให้มีความพร้อมระดับสูงสุดก่อนที่จะมีฝนตกหนักลงมาในพื้นที่ภาคใต้ เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นในช่วงดังกล่าว
ส่วนความคืบหน้าการซ่อมแซมทางหลวงชนบทสาย ยล.4044 แยก ทล.4326-อ่างเก็บน้ำยะรม อ.เบตง จ.ยะลา ที่ก่อนหน้านี้ถูกน้ำซัดคอสะพานขาดไม่สามารถสัญจรได้ ล่าสุด นายมนตรี เดชาสกุลสม อธิบดีกรมทางหลวงชนบทได้สั่งการให้ดำเนินการติดตั้งสะพานเหล็กสำเร็จรูป (Bailey Bridge) ซึ่งขณะนี้ติดตั้งแล้วเสร็จพร้อมเปิดให้สัญจรเป็นการชั่วคราวเพื่อบรรเทาความเดือดร้อน พร้อมประกาศเตือนให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะใช้ความระมัดระวังในการสัญจรและปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัย