ราคาทองคำในประเทศ ช่วงครึ่งวันแรกค่อนข้างผันผวน โดยสมาคมค้าทองคำ รายงานราคาครั้งที่ 1 เมื่อเวลา 09.04 น. ราคาทองคำปรับลดลงจากวันเสาร์ (23 พ.ย.) บาททองคำละ 250 บาท โดยช่วงครึ่งวันแรก ราคาทองคำปรับขึ้น-ลง มากถึง 16 ครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่ปรับขึ้น-ลง ครั้งละ 50 บาท แต่เมื่อเวลา 10.30 น. (ครั้งที่ 7) ราคาทองคำในประเทศ ร่วงลงไปถึงบาททองคำละ 300 บาท
โดยล่าสุด เมื่อเวลา 11.57 น. (ครั้งที่ 16) ราคาทองแท่ง 96.5% รับซื้อ บาททองคำละ 43,600 บาท ขายออก บาททองคำละ 43,700 บาท ส่วนราคาทองรูปพรรณ รับซื้อ บาททองคำละ 42,811.84 บาท ขายออก บาททองคำละ 44,200 บาท
บทวิเคราะห์ จาก MTS Gold ระบุว่า ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง จากสภาวะสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครนที่ยังคงรุนแรง ทำให้ราคาทองคำสามารถกลับมายืนเหนือ 2,700 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ได้ ทำให้นักวิเคราะห์หลายฝ่ายมองว่า ราคาทองคำสิ้นสุดการปรับฐานแล้ว รวมถึงตลาดรับรู้ว่าการยุติสงครามของนโยบายนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าประธานาธิบดีสหรัฐ ยังไม่มีการดำเนินการ ขณะที่ทางนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐคนปัจจุบัน และนาโต้ ต่างจุดชนวนไฟสงครามมากขึ้น
ทั้งนี้ ราคาทองคำสิ้นสุดการปรับฐาน และดีดตัวขึ้นมาอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะกลาง และระยะสั้นได้อย่างมั่นคง ทำให้ภาพรวมราคาทองคำทางเทคนิคกลับเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นในระยะสั้น และน่าจะเข้าสู่ทิศทางขาขึ้นอย่างสมบูรณ์ในระยะต่อไป หากราคาทองคำสามารถทรงตัวอยู่เหนือ 2,700 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ได้ภายในอีก 2 วัน
สำหรับวันนี้ คาดว่าราคาทองคำจะมีกรอบแนวรับที่ระดับ 2,690 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ และแนวต้านที่ระดับ 2,730 เหรียญสหรัฐ/ออนซ์ ซึ่งยังวิเคราะห์ว่าราคาทองคำยังคงมีความผันผวน และนักลงทุนน่าจะขายทำกำไรออกไปบางส่วน จึงควรบริหารความเสี่ยงให้ดีจากสภาวะสงคราม
สำหรับราคาทองไทย จะมีแนวรับระยะสั้นที่ 43,600 บาท/บาททองคำ และมีแนวต้านระยะสั้นที่ 44,200 บาท/บาททองคำ โดยราคาทองไทยปรับตัวลดลงจากการแข็งค่าของค่าเงินบาท โดยเช้านี้เงินบาทอยู่ที่ระดับ 34.56 บาท/ดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาทองไทยปรับตัวลดลงมา ในส่วนของกองทุนทองคำ SPDR วันศุกร์ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ปัจจุบันถือครองที่ 877.97 ตัน