กรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังค่อนข้างแรง ในขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งตะวันออกของประเทศมาเลเซียจะเคลื่อนผ่านประเทศมาเลเซียลงสู่ทะเลอันดามันตอนล่าง ทำให้ภาคใต้ตอนล่างมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่บริเวณจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ไว้ด้วย
จากปริมาณฝนตกหนักบริเวณลุ่มน้ำภาคใต้ฝั่งตะวันออกตอนล่าง ส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำและคลองสาขา มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะล้นตลิ่งและหลากเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร
สำหรับสถานการณ์ล่าสุด กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)ได้รายงานว่า เกิดสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ 7 จังหวัด 50 อำเภอ 321 ตำบล 1,884 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 136,219 ครัวเรือน ได้แก่
- จ.สุราษฎร์ธานี 2 อำเภอ คือ กาญจนดิษฐ์ และ ดอนสัก รวม 91 ครัวเรือน
- จ.นครศรีธรรมราช 8 อำเภอ คือ ชะอวด เฉลิมพระเกียรติ พระพรหม เมืองนครศรีธรรมราช ร่อนพิบูลย์ จุฬาภรณ์ ปากพนัง พรหมคีรี รวม 34,513 ครัวเรือน
- จ.สงขลา 15 อำเภอ คือ ปากพนัง พรหมคีรี ระโนด สะเดา หาดใหญ่ สิงหนคร เทพา บางกล่ำ สะบ้าย้อย นาทวี จะนะ รัตภูมิ เมืองสงขลา นาหม่อม กระแสสินธุ์ ควนเนียง คลองหอยโข่ง รวม 23,181 ครัวเรือน
- จ.ปัตตานี 8 อำเภอ คือ มายอ ทุ่งยางแดง หนองจิก แม่ลาน ไม้แก่น โคกโพธิ์ รวม 8,442 ครัวเรือน
- จ.ยะลา 5 อำเภอ คือ บันนังสตา อ.เมืองยะลา ยะหา รามัน กาบัง รวม 27,425 ครัวเรือน
- จ.นราธิวาส คือ บาเจาะ แว้ง รือเสาะ เจาะไอร้อง สุคิริน ยี่งอ ระแงะ ตากใบ จะแนะ ศรีสาคร สุไหงโก-ลก สุไหงปาดี เมืองนราธิวาส รวม 42,294 ครัวเรือน
- จ.สตูล 1 อำเภอ คือ ควนโดน 273 ครัวเรือน
โดยเมื่อวานนี้ (27 พ.ย.) กรมป้องกันฯ ร่วมกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือได้ส่ง SMS แจ้งเตือนอุทกภัยแบบเจาะจงพื้นที่ไปยังโทรศัพท์มือถือของประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ทั้ง 18 อำเภอ 82 ตำบล ให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยวาตภัยและดินโคลนถล่ม (ศปช.) เปิดเผยว่า รัฐบาลได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในภาคใต้ พร้อมรับทราบรายงานการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และ รายงานสถานการณ์ทุกอย่างให้นายกรัฐมนตรีรับทราบเป็นระยะ ซึ่งนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงประชาชนอย่างมาก พร้อมสั่งการเร่งให้ระดมความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน
อีกทั้งได้สั่งการให้พล.อ. ณัฐพล นาคพานิชย์ รมช.กลาโหม บินด่วนลงพื้นที่ภาคใต้ ไปติดตามสถานการณ์ และ ดูแลการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า พร้อมให้ประสานความร่วมมือกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย ที่จะเดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ในวันพรุ่งนี้ (29 พ.ย.) พร้อมกับ นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวานิช รมช.มหาดไทย
นอกจากนี้ ได้ประสานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เตรียมพร้อมเรื่องกองทุนเงินช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยไว้ด้วย