น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.)ได้สั่งการเพิ่มเติมให้ ศปช.ส่วนหน้าภาคใต้ ในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนล่างที่ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักในช่วงที่ผ่านมา ได้แก่ สงขลา ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส ให้ระดมความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่าง ๆ เข้าพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อคลี่คลายสถานการณ์และบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน และให้รายงานสถานการณ์เป็นรายชั่วโมง แม้ฝนจะซาลง
"จากการหารือกับจังหวัดที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่ พบว่าขณะนี้มีความต้องการเรือท้องแบน เจ็ตสกี รถยกสูง และอาหารแห้ง ซึ่งได้สั่งการให้กระทรวงกลาโหม กรมเจ้าท่า จัดหารถยกสูง เรือรูปแบบต่าง ๆ พร้อมเจ็ทสกี เข้าพื้นที่เพื่อเคลื่อนย้ายประชาชนไปยังศูนย์พักพิงหรือจุดที่ปลอดภัย พร้อมกันนี้ ได้สั่งให้กรมชลประทานติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ เครื่องจักรเครื่องมือต่าง ๆ เพื่อเร่งระบายน้ำ ขณะที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมจิตอาสาระดมความช่วยเหลือ ถุงยังชีพ และอาหารแห้งเข้าแจกจ่ายในพื้นที่แล้ว" น.ส.ศศิกานต์ กล่าว
พร้อมกันนี้ ศปช.ได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีประกาศแจ้งเตือนประชาชนผ่านกลไกต่าง ๆ ทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กรมทรัพยากรธรณี โดยให้กรมประชาสัมพันธ์ บูรณาการข้อมูลจากทุกหน่วย ออกประกาศแจ้งเตือนในระดับพื้นที่ ซึ่งช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ได้ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) งดการระบายน้ำของเขื่อนบางลาง ตั้งแต่วันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อลดผลกระทบในพื้นที่ท้ายน้ำ
ในส่วนของเส้นทางสัญจรที่ได้รับผลกระทบ ได้ให้กระทรวงคมนาคมสำรวจความเสียหาย พร้อมเร่งแก้ไขให้สามารถสัญจรได้อย่างปลอดภัย รวมทั้งตรวจสอบเส้นทางรถไฟที่อาจได้รับผลกระทบจากดินถล่ม ขณะที่ด้านสาธารณสุข ได้สั่งป้องกันโรงพยาบาลเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ป่วย รวมทั้งเตรียมส่งต่อผู้ป่วยกลุ่มเปราะบางไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง เพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง
"รัฐบาล โดยท่านนายกรัฐมนตรี มีความเป็นห่วงพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเป็นอย่างมาก และได้มอบหมายให้ทุกส่วนราชการ ระดมสรรพกำลังเพื่อเร่งแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้กลับสู่ปกติโดยเร็ว โดยให้ ศปช. ติดตามสถานการณ์ร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อสนับสนุนความช่วยเหลือจนกว่าจะเข้าสู่สถานการณ์ปกติ" รองโฆษกรัฐบาล ระบุ