นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้รับรายงานจากสำนักงาน กสทช. เขต 41 จ.ยะลา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ จ.ยะลา ปัตตานี สงขลา สตูล และนราธิวาส ว่าสถานการณ์ในพื้นที่ภาคใต้ยังคงน้ำท่วมหนัก และฝนยังคงตกต่อเนื่อง จึงได้มีการตั้งศูนย์ประสานงานภัยพิบัติภาคใต้ คอยช่วยเหลือประชาชน 24 ชั่วโมง รายงานสถานการณ์ในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง และประสานผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างใกล้ชิด เพราะขณะนี้ในบางพื้นที่น้ำท่วมสูง การไฟฟ้าถูกตัดขาด ส่งผลต่อระบบการสื่อสารในบางพื้นที่
สำหรับปัญหาขณะนี้คือ ฝนตกต่อเนื่องทุกวัน และในพื้นที่ยังมีน้ำท่วมสูง หากน้ำไม่ลด จะทำให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ไม่สามารถเข้าไปสถานีฐานเพื่อเติมน้ำมันปั่นไฟได้ โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้รับรายงานว่ามีสถานีฐานโทรศัพท์เคลื่อนที่ (cell site) หยุดให้บริการบางส่วนเกือบ 200 สถานี แต่บางสถานีก็กลับมาใช้การได้ ขึ้นกับการจ่ายไฟฟ้าของการไฟฟ้าในแต่ละช่วง
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า วิทยุสื่อสารยังเป็นหัวใจสำคัญของการสื่อสารในพื้นที่ โดยเจ้าหน้าที่สำนักงาน กสทช. ภาค 4 และเขต 41 ได้มีการประสานงานกับเครือข่ายวิทยุสมัครเล่น ให้เตรียมความพร้อมและสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจการแจ้งเตือนภัย และการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย เช่น ให้ข้อมูลสถานการณ์ และเส้นทางการเดินทาง ให้กับทีมอาสากู้ภัยต่าง ๆ ที่จะเข้าไปในพื้นที่ รวมถึงประสานศูนย์สายลม ซึ่งเป็นแม่ข่ายวิทยุสื่อสาร
"ในพื้นที่ขณะนี้พนักงานก็ได้กลายเป็นผู้ประสบภัยด้วย น้ำท่วมบ้าน เพราะฝนตกทุกวัน แต่เจ้าหน้าที่ก็เข้าปฏิบัติงานคอยช่วยเหลือประชาชน 24 ชั่วโมง เพื่อเป็นตัวกลางประสานงานระหว่างประชาชน และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ หากจุดไหนที่น้ำไม่สูงมาก และการไฟฟ้าไม่ได้ตัดขาด ก็จะคอยรับเรื่องรายงานประสานให้ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เข้าไปเติมเชื้อเพลิงปั่นไฟ เพื่อให้สัญญาณโทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตใช้การได้" นายไตรรัตน์ กล่าว