นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และคมนาคม เปิดเผยว่า สำหรับการก่อสร้างทุกโครงการ บนถนนเส้นพระราม 2 ภายในช่วงวันที่ 26 ธันวาคม 2567 - 2 มกราคม 2568 กระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ระงับการดำเนินการทั้งหมด พร้อมคืนผิวถนนในการสัญจรให้ได้มากที่สุด เพื่อต้องการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนที่ใช้เส้นทาง พร้อมแนะนำประชาชนศึกษาเส้นทางก่อนเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงการจราจรที่ติดขัดช่วงเทศกาลปีใหม่
นายสุริยะ กล่าวต่อว่า จากเหตุการณ์ความเสียหาย กรณีชิ้นส่วนสะพานที่ก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 เมื่อวันที่ 29 พ.ย.67 ซึ่งก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตและทรัพย์สิน ขณะนี้ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงคมนาคมที่มีงานก่อสร้าง เช่น กรมทางหลวง (ทล.) กรมทางหลวงชนบท การทางพิเศษแห่งประเทศไทย การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ร่วมกันเร่งพิจารณาให้ความเห็นต่อร่างระเบียบกระทรวงการคลัง ในการประเมินผลการปฏิบัติงานของผู้รับเหมา เพื่อเข้าหารือกับกรมบัญชีกลางถึงแนวทางจัดทำมาตรการ "สมุดพกผู้รับเหมา" เพื่อให้ออกมาเป็นรูปธรรมโดยเร็วที่สุด
โดยเบื้องต้น มาตรการดังกล่าว นอกจากจะปรับเงินสูงสุดตามกฎหมาย และตัดสิทธิในการเข้าร่วมประมูลงานแล้ว จะเพิ่มการ "ตัดคะแนน" ด้วย ซึ่งหากไม่ผ่านเกณฑ์ที่กำหนด จะพิจารณาลดชั้นผู้รับเหมา รวมถึงการถอดรายชื่อออกจากทะเบียนผู้รับเหมาที่มีสิทธิเข้าประมูลโครงการของภาครัฐทันที
"ภายในระยะเวลา 2 สัปดาห์นี้ จะเร่งสรุปความเห็นต่อร่างระเบียบกระทรวงการคลังดังกล่าว เพื่อนำไปพูดคุยรายละเอียดเพิ่มเติมกับกรมบัญชีกลาง เพื่อหาข้อสรุปให้มีผลบังคับใช้ต่อไป" นายสุริยะ กล่าว
* รื้อถอนชิ้นส่วนโครงสร้างเหล็ก-คอนกรีต ที่ถล่มได้สำเร็จ
ด้านนายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยต่อถึงความคืบหน้าเหตุการณ์ชิ้นส่วนสะพานที่ก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 ว่า ตามที่ได้รับมอบหมายจาก รมว.คมนาคม ให้เร่งดำเนินการตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น ขณะนี้ ทล. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยเชิญผู้แทนจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ (วสท.) และสภาวิศวกร ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมโยธา เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการฯ เพื่อร่วมหาสาเหตุ โดยจะทราบผลการตรวจสอบภายใน 14 วัน
ส่วนกรณีการเคลื่อนย้ายชิ้นส่วนโครงสร้างเหล็กและคอนกรีตนั้น ขณะนี้ ทีมวิศวกรสามารถยกชิ้นส่วนสะพานคอนกรีต (Segment) จำนวน 3 ก้อน ที่ติดค้างอยู่ด้านบนลงมาได้อย่างปลอดภัยแล้ว และจะรื้อในส่วนของโครงสร้างเหล็กต่อไป โดยตามกำหนดนั้น จะแล้วเสร็จภายใน 14 วัน และหลังจากนั้น พร้อมเปิดให้ประชาชนได้จราจรได้ตามปกติ ทั้งเส้นหลักและเส้นคู่ขนานของทางหลวงหมายเลข 35
"ทีมวิศวกรประสบความสำเร็จในการปลด Segment No.2-3 ซึ่งเป็นชิ้นส่วนสะพานที่มีน้ำหนักถึง 120 ตัน ลงจากโครงสร้างเหล็กติดตั้งชิ้นส่วนสะพาน (Launching Gantry) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อเวลา 19.55 น.ที่ผ่านมา (วันที่ 4 ธ.ค.) การปฏิบัติการในครั้งนี้เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 08.00 น. โดยระดมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 100 คน รถเครนขนาดใหญ่ 6 คัน และเครื่องจักรกลหนักอีกจำนวนมาก เนื่องจาก Segment No.2-3 มีน้ำหนักมากกว่า Segment No.1 ที่ดำเนินการไปก่อนหน้านี้ จึงต้องใช้ความระมัดระวังและความแม่นยำสูงยิ่งขึ้น ตลอดระยะเวลาการทำงาน ทีมวิศวกรได้คำนวณและวิเคราะห์แรงที่กระทำต่อโครงสร้างอย่างละเอียด เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยสูงสุด" อธิบดีกรมทางหลวง ระบุ