นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย เปิดเผยว่า วันนี้ตนจะร่วมคณะไปตรวจเยี่ยมเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้กับนายกรัฐมนตรี ซึ่งในส่วนของกระทรวงมหาดไทยนั้นมีอธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) อยู่ในพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 15 ธ.ค.ที่ผ่านมา ส่วนการจัดสรรเงินเพื่อช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประสบเหตุอุทกภัยนั้นจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกับเหตุอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือที่ได้ครัวเรือนละ 9,000 บาท
"เกณฑ์จะต้องเท่าเทียมกันหมด คนที่ได้แล้วก็จะไม่ได้รับอีก ส่วนกรณีบ้านเสียหายทั้งหลังก็ดูเป็นกรณีไป ถ้าบ้านเรือนเสียหายจากดินโคลนถล่มหรือน้ำพัดพังไปทั้งหลังก็จะมีระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี" นายอนุทิน กล่าว
ส่วนการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นกับพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากนั้น นายอนุทิน กล่าวว่า ปัญหาเกิดจากน้ำไหลหลาก และมีฝนตกแบบที่เรียกกันว่า Rain Bomb ทำให้มีปริมาณน้ำมาก จากปกติที่จะตกราว 50-100 มิลลิเมตร แต่ครั้งนี้ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีฝนตกมากถึง 500 มิลลิเมตร ก็ถือว่าเป็นภัยธรรมชาติ ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องการบริหารจัดการชลประทานไม่ดี แต่สถานการณ์วันนี้น่าจะดีขึ้น
ทั้งนี้จากที่ได้รับรายงานว่า พื้นที่ประสบเหตุเป็นทางไหลผ่านของน้ำ น้ำจะมาอย่างเต็มที่และไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งไม่ได้เกิดเหตุท่วมนานจนต้องอพยพประชาชนออกไปจากพื้นที่เป็นเดือน ๆ ซึ่งได้เตรียมทุกอย่างไว้หมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นศูนย์พักพิง เครื่องมือเครื่องจักร รวมไปถึงมาตรการฟื้นฟู
ภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายกรัฐมนตรีจะนำคณะเดินทางไปตรวจราชการ ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อไปถึงจะเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์อุทกภัย และสั่งการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่ภาคใต้ (นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร และพัทลุง) ณ ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช จากนั้นจะลงพื้นที่ไปติดตามสถานการณ์อุทกภัย และมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัยบริเวณซอยพัฒนาการคูขวาง 10 (ถนนท่าโพธิ์) อำเภอเมืองนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช
หลังจากนั้นนายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์อุทกภัยและมอบถุงยังชีพช่วยเหลือผู้ประสบภัย ณ ที่ว่าการอำเภอท่าฉาง อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี