เตือนอย่าเชื่ออย่าแชร์ข่าวปลอม! สัปดาห์นี้ข่าวเกี่ยวกับสุขภาพมาแรงหวั่นสังคมเข้าใจผิด

ข่าวทั่วไป Saturday December 21, 2024 16:19 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ตรวจพบข่าวปลอมรายสัปดาห์ ที่ประชาชนให้ความสนใจสูงสุดอันดับที่ 1 เรื่อง "ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Vistanix วิสตานิกซ์ ช่วยฟื้นฟูการมองเห็นได้ถึง 95-100% โดยไม่ต้องผ่าตัด" รองลงมาคือเรื่อง "พบเด็กนักเรียนในประเทศไทยติดเชื้อโนโรไวรัสแล้วกว่า 1,400 ราย" โดยขอให้ประชาชน อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เลือกเชื่อ เลือกแชร์ ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ หวั่นสร้างความสับสน เข้าใจผิด ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนในสังคมเป็นวงกว้าง

นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) ในฐานะโฆษกกระทรวงดีอี กล่าวถึงผลการมอนิเตอร์และรับแจ้งข่าวปลอมของศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม ระหว่างวันที่ 13-19 ธันวาคม 2567 พบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 826,945 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 733 ข้อความ

สำหรับช่องทางที่มีการพบเบาะแสมากที่สุด คือ ข้อความที่มาจาก Social Listening จำนวน 701 ข้อความ ตามมาด้วยการแจ้งเบาะแสผ่าน Line Official จำนวน 26 ข้อความ ช่องทาง Website จำนวน 2 ข้อความ และ Facebook จำนวน 4 ข้อความ รวมเรื่องที่ต้องดำเนินการตรวจสอบทั้งหมด 264 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 83 เรื่อง

กระทรวงดีอี ได้แบ่งข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจเป็น 5 กลุ่ม ประกอบด้วย

กลุ่มที่ 1 : นโยบายรัฐบาล ข่าวสารทางราชการ ความสงบเรียบร้อยของสังคม ขัดศีลธรรมอันดี และความมั่นคงภายในประเทศ จำนวน 99 เรื่อง

ลุ่มที่ 2 : ผลิตภัณฑ์สุขภาพ วัตถุอันตราย เครื่องสำอาง รวมถึงสินค้าและบริการที่ผิดกฎหมายจำนวน 90 เรื่อง

กลุ่มที่ 3 : ภัยพิบัติ จำนวน 12 เรื่อง

กลุ่มที่ 4 : เศรษฐกิจ จำนวน 20 เรื่อง

กลุ่มที่ 5 : กลุ่มอาชญากรรมออนไลน์ จำนวน 43 เรื่อง

เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ได้รับความสนใจในลำดับต้นๆ ในสัปดาห์นี้ พบว่าเป็นข่าวเกี่ยวกับสุขภาพ และหน่วยงานของรัฐ รวมถึงเรื่องภัยพิบัติ ซึ่งมีผลกระทบต่อสังคมส่วนใหญ่ อาจทำให้เกิดความเข้าใจผิด วิตกกังวลได้ โดยข่าวที่ได้รับความสนใจจากประชาชนมากที่สุด 10 อันดับ ได้แก่

อันดับที่ 1 : เรื่อง ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Vistanix วิสตานิกซ์ ช่วยฟื้นฟูการมองเห็นได้ถึง 95-100% โดยไม่ต้องผ่าตัด

อันดับที่ 2 : เรื่อง พบเด็กนักเรียนในประเทศไทยติดเชื้อโนโรไวรัสแล้วกว่า 1,400 ราย

อันดับที่ 3 : เรื่อง หลอดเลือดโป่งที่หลังมือ และอาการชานิ้วมือ เป็นสัญญาณเตือนก่อนเกิดภาวะสมองขาดเลือด

อันดับที่ 4 : เรื่อง เมฆเตือนภัย จะเกิดเหตุไฟไหม้ครั้งใหญ่ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เฝ้าระวังถึงวันที่ 5 ม.ค. 68

อันดับที่ 5 : เรื่อง สัญลักษณ์บนซองช็อกโกแลต หมายถึงช็อกโกแลตที่ทำจากหนอน

อันดับที่ 6 : เรื่อง จังหวัดนครศรีธรรมราช ยังมีพายุอีกหนึ่งลูกช่วงเดือนธันวาคม

อันดับที่ 7 : เรื่อง แผ่นดินไหวขนาด 7.4 ที่วานูอาตู ไทยควรหลีกเลี่ยงทะเลและเฝ้าระวังสึนามิ คลื่นทะเลปั่นป่วนทั่วโลก

อันดับที่ 8 : เรื่อง เผยเอกสารกระทรวงยุติธรรม แจ้งเลขล็อกรางวัลสลากกินแบ่ง

อันดับที่ 9 : เรื่อง PEA รับแจ้งเปลี่ยนหม้อมิเตอร์ และรับเงินประกันหม้อเก่า ผ่านไลน์

อันดับที่ 10 : เรื่อง พายุปาบึกเข้าประเทศไทยในวันที่ 20 ธ.ค. 67

"เมื่อพิจารณาจากข่าวปลอมที่ประชาชนสนใจมากที่สุด จาก 10 อันดับข้างต้น พบว่าเป็นข่าวที่เกี่ยวข้องกับ สุขภาพ หน่วยงานรัฐ และภัยพิบัติ ซึ่งทั้งหมดมีผลกระทบต่อประชาชน ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ความวิตกกังวล ส่งผลกระทบกับประชาชนทั่วประเทศเป็นวงกว้าง หากมีการแชร์ส่งต่อกันไปในสังคม

สำหรับอันดับ 1 เรื่อง "ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร Vistanix วิสตานิกซ์ ช่วยฟื้นฟูการมองเห็นได้ถึง 95-100% โดยไม่ต้องผ่าตัด" กระทรวงดีอี ได้ประสานงานร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบพบว่า เป็นข้อมูลเท็จ โดยพบว่า ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวใช้คำโฆษณาที่เกินจริง และแสดงภาพเปรียบเทียบก่อนและหลังใช้ผลิตภัณฑ์ ข้อความที่เป็นการแนะนำคุณภาพหรือสรรพคุณของอาหารโดยบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ทำให้เข้าใจว่าเป็นบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ดังนั้นขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลดังกล่าวต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งหากประชาชน สนใจรับข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์สุขภาพ สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.fda.moph.go.th หรือหากพบผลิตภัณฑ์ที่ต้องสงสัย สามารถแจ้งร้องเรียนได้ที่สายด่วน 1556

ด้านข่าวปลอมอันดับ 2 "พบเด็กนักเรียนในประเทศไทยติดเชื้อโนโรไวรัสแล้วกว่า 1,400 ราย" กระทรวงดีอี ได้ประสานงานร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ตรวจสอบพบว่า เป็นข้อมูลเท็จ โดยกรณีดังกล่าว มาจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในจังหวัดระยอง และเป็นเหตุการณ์เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน ซึ่งเป็นอาการท้องเสียของเด็กนักเรียนซึ่งเกิดจากเชื้อ E.coli และโคลิฟอร์ม แบคทีเรีย จำนวน 1,400 ราย โดยพบการติดเชื้อโนโรไวรัส จำนวน 2 รายเท่านั้น และปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว อย่างไรก็ตามปัจจุบันมีการระบาดของเชื้อโนโรไวรัสจริง แต่ยังไม่พบอาการรุนแรง หรือเสียชีวิต

สำหรับเชื้อโนโรไวรัส (Norovirus) เป็นโรคติดต่อจากคนสู่คน มักพบการระบาดในช่วงฤดูหนาว สามารถติดต่อได้ง่าย จากการสัมผัสทางอาหาร น้ำดื่ม อากาศ การสัมผัส และการหายใจ เช่น การสัมผัสผู้ป่วยที่ติดเชื้อโนโรไวรัสโดยตรง การสัมผัสสิ่งของที่มีเชื้อโนโรไวรัส รวมถึงสภาพแวดล้อมไม่ถูกหลักสุขาภิบาล อาการที่พบส่วนใหญ่ผู้ป่วยมักมีอาการคลื่นไส้อาเจียนรุนแรง ปวดมวนท้อง ท้องเสีย มีไข้ต่ำ ๆ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และปวดเมื่อยตามร่างกาย โดยมีวิธีป้องกันดังนี้

1. รับประทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง

2. ล้างผักและผลไม้ให้สะอาด

3. ล้างมือด้วยน้ำสะอาดและสบู่ก่อนและหลังทำกิจกรรมในชีวิตประจำวัน

4. หลีกเลี่ยงดื่มน้ำที่ไม่สะอาด และหลีกเลี่ยงการสัมผัสน้ำที่ไม่สะอาด

ดังนั้น ขอเตือนให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อข้อมูลดังกล่าว และขอความร่วมมือไม่ส่ง หรือแชร์ข้อมูลเหล่านี้ต่อในช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ซึ่งประชาชนที่สนใจ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมจากกรมอนามัย ได้ที่เว็บไซต์ https://anamai.moph.go.th/th หรือโทรสายด่วน 1478


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ