น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2568 รัฐบาลได้รณรงค์ "ดื่มไม่ขับ กลับบ้านปลอดภัย" ที่จะช่วยสร้างและกระตุ้นจิตสำนึกของประชาชนให้ดื่มฉลองกันอย่างมีสติ เพื่อลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้นให้น้อยที่สุด ซึ่งจากสถิติความสูญเสียย้อนหลัง 3 ปี พบว่า ปี 2565 เกิดอุบัติเหตุ 2,707 ครั้ง บาดเจ็บ 2,672 คน เสียชีวิต 333 ราย, ปี 2566 เกิดอุบัติเหตุ 2,440 ครั้ง บาดเจ็บ 2,437 คน เสียชีวิต 317 ราย และปี 2567 เกิดอุบัติเหตุ 2,288 ครั้ง บาดเจ็บ รวม 2,307 คน เสียชีวิต 284 ราย
โดยสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุสูงสุดมาจากขับรถเร็ว 40.6% ตัดหน้ากระชั้นชิด 23.31% ดื่มแล้วขับ 14.29% ส่วนยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 87.01% ขณะที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอยู่ในช่วงอายุ 30-39 ปี สูงสุด 19.67%
ทั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดแผนปฏิบัติงานเทศกาลปีใหม่ 2568 ช่วงคุมเข้มในช่วงวันที่ 27 ธ.ค.67-2 ม.ค.68 โดยจะบังคับใช้กฎหมายใน 10 ข้อหา โดยเน้นหนักเรื่องการดื่มแล้วขับ เนื่องจากในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 มีการจับกุมข้อหาเมาแล้วขับสูงถึง 20,917 ราย และทำการตรวจสอบประวัติผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับเมาแล้วขับที่กระทำผิดซ้ำเป็นครั้งที่ 2 เพื่อส่งฟ้องต่อศาลให้ได้รับโทษสูงขึ้น
"ทำผิดครั้งแรกมีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับ 5,000-20,000 บาท หากกระทำความซ้ำข้อหาเมาแล้วขับภายใน 2 ปีนับแต่วันกระทำผิดครั้งแรก เพิ่มโทษเป็นจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับ 50,000-100,000 บาท ถูกพักใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือถูกเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่" น.ส.ศศิกานต์ กล่าว
สำหรับผู้กระทำความผิดที่เป็นเด็กและเยาวชนได้ใช้มาตรการสืบสวนขยายผลไปยังร้านค้าที่จำหน่ายสุรา โดยมีบัญชีร้านค้าเสี่ยงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ และใช้มาตรการทางกฎหมายกับผู้ปกครองที่ปล่อยปละละเลย หรือสนับสนุนให้เด็กและเยาวชนดื่มสุราตาม พ.ร.บ.คุ้มครองฯ