น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ได้ออกประกาศแจ้งเตือนฝนตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ในช่วงวันที่ 27-30 ธ.ค.67 นั้น กรมอุตุนิยมวิทยาได้จัดทำข้อมูลพื้นที่ที่ปริมาณฝนเกิน 90 มม.ซึ่งเข้าเกณฑ์ฝนตกหนักมาก (Very Heavy Rain) เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถวางแผนรับมือได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้ จ.ชุมพร ได้แก่ อ.ละแม / จ.สุราษฎร์ธานี ได้แก่ อ.ท่าชนะ / จ.นครศรีธรรมราช ได้แก่ อ.ลานสกา อ.ท่าศาลา อ.นบพิตำ อ.พระพรหม / จ.พัทลุง ได้แก่ อ.กงหรา / จ.นราธิวาส ได้แก่ อ.สุไหงปาดี อ.สุไหงโก-ลก อ.จะแนะ อ.ตากใบ อ.เจาะไอร้อง อ.ศรีสาคร / จ.ปัตตานี ได้แก่ อ.ไม้แก่น อ.สายบุรี
โดยกรมอุตุนิยมวิทยา และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ได้วิเคราะห์ปริมาณฝนที่จะตกในช่วง 27-30 ธ.ค.นี้แล้วพบว่า ปริมาณฝนจะน้อยกว่าสองระลอกที่ผ่านมา ไม่กระทบต่อระดับน้ำในแหล่งน้ำต่าง ๆ และไม่มีความเสี่ยงจะเกิดน้ำล้นตลิ่งจนเอ่อเข้าท่วมบ้านเรือน อย่างไรก็ตามลักษณะของฝนทางภาคใต้จะเป็นลักษณะมาเร็วไปเร็ว อาจต้องเฝ้าระวังในส่วนของพื้นที่ลาดชันและทางน้ำไหลผ่าน ซึ่งกรมทรัพยากรธรณีได้แจ้งเครือข่ายเฝ้าระวังในพื้นที่อ่อนไหวเพื่อเตรียมพร้อมรับสถานการณ์
รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศปช.ได้ฝากความห่วงใยถึงชาวนครศรีธรรมราชที่ขณะนี้ยังมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.พระพรหม อ.ปากพนัง อ.เฉลิมพระเกียรติ อ.เชียรใหญ่ และ อ.ชะอวด โดยให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนเตรียมพร้อมเฝ้าระวังฝนระลอกใหม่ที่อาจส่งผลกระทบในพื้นที่และเข้าช่วยเหลือประชาชนอย่างทันท่วงทีเมื่อเกิดสถานการณ์ภายใน 15 นาที