ศูนย์ข้อมูลคุณภาพอากาศกรุงเทพมหานคร (กทม.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) เวลา 07.00 น. ค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง ตรวจวัดได้ 45.7-85 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (มคก./ลบ.ม.) พบว่า
1. เขตหนองแขม สามแยกข้างป้อมตำรวจ ถนนมาเจริญ เพชรเกษม 81 : มีค่าเท่ากับ 85.0 มคก./ลบ.ม.
2. เขตบางกอกน้อย บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟบางกอกน้อย : มีค่าเท่ากับ 80.6 มคก./ลบ.ม.
3. เขตทวีวัฒนา ทางเข้าสนามหลวง 2 : มีค่าเท่ากับ 80.0 มคก./ลบ.ม.
4. เขตบางขุนเทียน ภายในสำนักงานเขตบางขุนเทียน : มีค่าเท่ากับ 79.3 มคก./ลบ.ม.
5. เขตภาษีเจริญ หน้ามหาวิทยาลัยสยาม(ประมาณซอยเพชรเกษม 36) ทางเข้ามหาวิทยาลัย : มีค่าเท่ากับ 79.2 มคก./ลบ.ม.
6. เขตบางบอน ใกล้ตลาดบางบอน : มีค่าเท่ากับ 75.6 มคก./ลบ.ม.
- ประชาชนทุกคน ควรงดกิจกรรมกลางแจ้ง หากมีความจำเป็นต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง ให้ใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองทุกครั้ง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
- ผู้ที่มีโรคประจำตัว ควรอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากมลพิษทางอากาศ ให้เตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม และปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
1. เขตลาดกระบัง ด้านหน้าโรงพยาบาลนคราภิบาล : มีค่าเท่ากับ 74.4 มคก./ลบ.ม.
2. เขตบางนา บริเวณหน้าห้าง สรรพสินค้าบิ๊กซี บางนา : มีค่าเท่ากับ 73.0 มคก./ลบ.ม.
3. เขตจอมทอง ภายในสำนักงานเขตจอมทอง : มีค่าเท่ากับ 72.4 มคก./ลบ.ม.
4. เขตประเวศ ด้านหน้าห้างสรรพสินค้าซีคอน สแควร์ : มีค่าเท่ากับ 72.2 มคก./ลบ.ม.
5. สวนทวีวนารมย์ เขตทวีวัฒนา : มีค่าเท่ากับ 71.9 มคก./ลบ.ม.
6. เขตธนบุรี ริมป้ายรถเมล์บริเวณแยกมไหศวรรย์ : มีค่าเท่ากับ 71.3 มคก./ลบ.ม.
7. เขตตลิ่งชัน ถนนพุทธมณฑลสาย 1 ตัดกับถนนบรมราชชนนี : มีค่าเท่ากับ 71.2 มคก./ลบ.ม.
8. เขตคันนายาว บริเวณปากทางถนนสวนสยามตัดกับถนนรามอินทรา : มีค่าเท่ากับ 70.7 มคก./ลบ.ม.
9. เขตบางกอกใหญ่ บริเวณสี่แยกท่าพระ แขวงวัดท่าพระ : มีค่าเท่ากับ 69.6 มคก./ลบ.ม.
10. เขตราษฎร์บูรณะ ภายในสำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ : มีค่าเท่ากับ 67.9 มคก./ลบ.ม.
- ประชาชนทั่วไป ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคาร จำกัดระยะเวลาในการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมากและควรสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอ หายใจลำบาก ระคายเคืองตา
- ประชาชนกลุ่มเสี่ยง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเอง เช่น หน้ากากป้องกัน PM 2.5 ทุกครั้งที่ออกนอกอาคารเลี่ยงการทำกิจกรรมหรือการออกกำลังกายกลางแจ้งที่ใช้แรงมาก ให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์ หากมีอาการผิดปกติให้รีบไปพบแพทย์
ทั้งนี้ ในช่วงวันที่ 22-30 ม.ค. 68 การระบายอากาศอยู่ในเกณฑ์ "ไม่ดี-อ่อน" ประกอบกับเกิดอินเวอร์ชั่นใกล้ผิวพื้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้มลพิษทางอากาศแพร่กระจายได้อย่างจำกัด คาดว่าความเข้มข้นของฝุ่นละอองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นแล้วทรงตัว ในระหว่างวันที่ 22-24 ม.ค. และลดลงเล็กน้อย ในวันที่ 25-28 ม.ค. เนื่องจากการระบายอากาศดีขึ้น และคาดการณ์วันนี้ อากาศเย็นกับมีหมอกบางในตอนเช้า และอุณหภูมิจะสูงขึ้นเล็กน้อย
ด้าน เว็บไซต์ IQAir รายงานคุณภาพอากาศของทั่วโลก พบว่า เช้านี้เวลา 9.06 น. กรุงเทพมหานคร ติดอันดับ 10 เมืองใหญ่ที่มีมลพิษมากที่สุดของโลก มีค่า AQI อยู่ที่ 182 อยู่ในระดับสีแดง (AQI = 151-200) หรือมีผลกระทบต่อทุกคน
ศูนย์สื่อสารการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (ศกพ.) กรมควบคุมมลพิษ คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ระหว่างวันที่ 22 ? 25 มกราคม 2568 มีแนวโน้มสูงขึ้นอยู่ในระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ (ระดับสีแดง) โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และพื้นที่อื่นที่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ได้แก่ พื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง พื้นที่ภาคตะวันออก