น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการเดินทางเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 5-8 ก.พ.68 จะถือโอกาสหารือกับนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงกรณีปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ รวมถึงปัญหาฝุ่นควัน และเรื่องอื่น ๆ ซึ่งเชื่อว่าทางจีนก็ต้องการได้ความร่วมมือจากไทย เพราะทั้ง 2 ประเทศมีความสัมพันธ์กันระดับพี่น้องมาอยู่แล้ว รวมถึงการพัฒนาความสัมพันธ์ต่อไป เพราะปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 50 ปีไทย-จีน ซึ่งถ้ามีโอกาสก็จะหารือเรื่องการเปิดการค้าไทย-จีนด้วย
สำหรับกรณีที่ รมว.ความมั่นคงของจีน มาคุยกับไทยเรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประกอบกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ประกาศบนเวทีหาเสียงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ว่า ภายในปีนี้ เรื่องแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะหมดไปนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สิ่งที่นายทักษิณได้กล่าวไป ก็เป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ทั้งการปราบยาเสพติด แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝุ่นควัน ถือเป็นสิ่งที่ต้องทำให้สำเร็จ และหากได้รับความร่วมมือจากประเทศเพื่อนบ้าน ก็จะช่วยเร่งกระบวนการให้สำเร็จเร็วขึ้น
รวมไปถึงการขอความร่วมมือจากจีนเรื่องสื่อโซเชียลปล่อยข่าวลือด้วย ส่วนการตั้งทีมมอนิเตอร์ข่าวเท็จที่เกี่ยวกับประเทศไทย เป็นกลไกของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ที่ทำอยู่แล้ว และจากการที่ได้ใช้ AI เพื่อประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจเป็นภาษาจีนนั้น ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี
"การพูดคุยกับนายสี จิ้นผิง จะเป็นการพูดคุยกันในภาพรวม ส่วนเนื้อหา และรายละเอียด ต้องให้กระทรวงดีอีเป็นคนไปพูดคุยต่อไป ซึ่งในส่วนของดิฉัน ก็จะแสดงความห่วงใยในเรื่องคอลเซ็นเตอร์ และพูดคุยในหัวข้อหลัก" น.ส.แพทองธาร กล่าว