น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนที่ปรึกษากองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (ปภ.ช.) เปิดเผยว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการบังคับใช้กฎหมายในฐานความผิดที่เกี่ยวกับมลพิษทางอากาศ ซึ่งจากการตรวจสอบยานพาหนะควันดำ 6,107 ครั้ง สามารถจับกุมผู้ประทำความผิดได้ 266 ราย โดยในพื้นที่กรุงเทพฯ ตรวจสอบ 546 ครั้ง จับกุมพร้อมสั่งแก้ไข 258 ราย ขณะที่การตรวจสอบการลักลอบเผาในพื้นที่เกษตร ได้จับกุมผู้กระทำความผิดแล้ว 28 ราย
สำหรับสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 ทั่วประเทศในขณะนี้มีแนวโน้มที่ดีขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ ขณะที่ภาคเหนือตอนบน มีค่าฝุ่นเพิ่มขึ้น และอยู่เกินเกณฑ์มาตรฐาน
ที่ผ่านมา มีประกาศห้ามเผาใน 50 จังหวัดทั่วประเทศ ช่วยให้แนวโน้มจุดความร้อนในประเทศไทยลดลง โดยสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและ ภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA รายงานพบจุดความร้อนในประเทศไทย 506 จุด ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ปลูกอ้อยในภาคตะวันตก ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดย 5 ลำดับแรก ได้แก่ จังหวัดตาก กาญจนบุรี นครราชสีมา ลพบุรี และเพชรบูรณ์ ขณะที่ประเทศเพื่อนบ้าน เช่น กัมพูชามีจุดความร้อนสูงถึง 1,329 จุด
ทั้งนี้ ปภ.ช. ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ให้ดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมา ทั้งการงดเผาในพื้นที่เกษตร การนำรถยนต์เข้ารับการตรวจสภาพ เพื่อลดการปล่อยมลพิษ รวมทั้งร่วมกันแจ้งเบาะแสการลักลอบเผา ได้ทางสายด่วน ปภ.1784 ตลอด 24 ชั่วโมง