น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม ได้เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทบทวนมติครม. เมื่อวันที่ 23 มี.ค. 64 เรื่องขออนุมัติขยายระยะเวลาโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ เพื่อขอขยายกรอบระยะเวลาในการดำเนินการโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบฯ ดังกล่าว ให้ดำเนินการจนแล้วเสร็จในช่วงปี พ.ศ. 2559-2570 (12 ปี)
ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 59 ครม. อนุมัติให้กระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ โดยเป็นการลงทุนเองของภาครัฐวงเงินงบฯ รวม 3,705.7 ล้านบาท ให้ดำเนินการจนแล้วเสร็จในช่วงปี พ.ศ. 2559-2563 และต่อมาครม. มีมติ (23 มี.ค. 64) ให้กระทรวงอุตสาหกรรม ขยายระยะเวลาดำเนินโครงการดังกล่าว เป็นให้ดำเนินการจนแล้วเสร็จในช่วงปี พ.ศ.2559-2567
สำหรับโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบฯ ได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้วทั้งสิ้น 2,669.09 ล้านบาท และแบ่งการดำเนินงานเป็น 2 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1 ส่วนทดสอบยางล้อ มีการดำเนินการปรับพื้นที่ ออกแบบและก่อสร้าง จัดซื้อและติดตั้งชุดเครื่องมือเสร็จแล้ว และเปิดให้บริการทดสอบแล้วตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค. 66 ส่วนอาคารสำนักงานก่อสร้างเสร็จแล้ว
- ระยะที่ 2 ส่วนทดสอบยานยนต์และชิ้นส่วน ประกอบด้วย สนามทดสอบความเร็วและสมรรถนะ สนามทดสอบระบบเบรก สนามทดสอบระบบเบรกมือ สนามทดสอบพลวัต สนามทดสอบการยึดเกาะถนนขณะเข้าโค้ง และระบบสาธารณูปโภค
โดยการดำเนินการทั้ง 2 ระยะ ได้มีการดำเนินการตามกรอบระยะเวลา เพื่อให้โครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบฯ แล้วเสร็จ โดยในปัจจุบันอยู่ในระหว่างการดำเนินการในส่วนการทดสอบยางยนต์และชิ้นส่วน ซึ่งต้องมีการดำเนินการปรับพื้นที่ เพื่อติดตั้งชุดเครื่องมือ และการดำเนินการสร้างสนามทดสอบความเร็วและสมรรถนะ ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลาในการดำเนินโครงการจนถึงปี 2570
กระทรวงอุตสาหกรรม จึงเสนอ ครม. เพื่อให้พิจารณาทบทวนมติรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มี.ค. 64 และขออนุมัติขยายระยะเวลาโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติ (โครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบฯ) เพื่อให้ขยายกรอบระยะเวลา ให้ดำเนินการจบแล้วเสร็จในช่วงปี พ.ศ.2559-2570 เพื่อดำเนินการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติให้เสร็จสิ้นโดยเร็วและมีประสิทธิภาพ สร้างความได้เปรียบทางด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และ ยางล้อ ในฐานะที่ไทยเป็นศูนย์กลางการทดสอบยานยนต์และยางล้อ ของภูมิภาคอาเซียน ที่สามารถรองรับการทดสอบและรับรองยานยนต์ ชิ้นส่วนยานยนต์และยางล้อได้อย่างมีมาตรฐาน และเป็นฐานการผลิตยานยนต์สมัยใหม่ที่สำคัญของโลก
ทั้งนี้ ครม. เห็นชอบตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้กระทรวงอุตสาหกรรม รับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย