นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการแทน เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ตามที่ สำนักงาน กสทช. ได้ทำหนังสือถึงผู้ให้บริการโทรคมนาคมทุกราย ขอให้ดำเนินการตรวจสอบ และระงับการใช้งาน IP Address ของมิจฉาชีพ เพื่อเป็นการสนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ซึ่งถือเป็นภัยทางสังคมและความมั่นคงของรัฐ โดยให้ดำเนินการอย่างเคร่งครัด ดังนี้
1. ให้ธนาคารพาณิชย์ส่งข้อมูล IP Address ที่มิจฉาชีพใช้งาน Mobile Banking ทำธุรกรรมทางการเงิน และ IP Address ของเครื่องแม่ข่ายที่มิจฉาชีพใช้โอนเงินผ่านธนาคารให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงิน
2. กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และกองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ส่งข้อมูล IP Address ของมิจฉาชีพให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider หรือ ISP) ในประเทศ ประกอบด้วย IP Address, เวลาที่ใช้ในการส่งข้อมูล (Timestamp), IP Address ปลายทางของเครื่องแม่ข่ายที่มิจฉาชีพไช้โอนเงินผ่านธนาคาร, เลขหมายคดี (Case ID) ที่ผู้เสียหายแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และข้อมูล URL ของมิจฉาชีพ ให้แก่ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตเพื่อดำเนินการต่อไป
3. ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตระงับการใช้งาน IP Address ของมิจฉาชีพชั่วคราว เพื่อระงับความเสียหาย พร้อมทั้งตรวจสอบและจัดทำข้อมูลผู้ใช้งาน IP Address ส่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ร้องขอ ภายใน 24 ชั่วโมง
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า เพื่อให้การดำเนินงานมีความเข้มข้น เมื่อวันที่ 11 ก.พ. 2568 สำนักงาน กสทช. ได้ส่งหนังสือกำชับให้ผู้ให้บริการโทรคมนาคมทุกราย ดำเนินการสนับสนุนภารกิจของรัฐบาลในการแก้ปัญหาอาชญากรรมทางเทคโนโลยีอย่างเคร่งครัด ตามหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคม ข้อ 12.16 ในการสนับสนุนหน่วยงานของรัฐในการดำเนินการใด ๆ เพื่อปกป้องสิทธิของผู้บริโภค เพื่อความปลอดภัยของสังคมและความมั่นคงของรัฐ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เป็นไปตามมติที่ประชุมสภาความมั่งคงแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2568 และหนังสือของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ทั้งนี้ หากไม่ดำเนินการ สำนักงาน กสทช. จะดำเนินการทางปกครองต่อไป
นายไตรรัตน์ กล่าวว่า ตลอดสัปดาห์นี้ สำนักงาน กสทช. ได้ลงพื้นที่จังหวัดสระแก้วอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจสอบสถานีโทรศัพท์มือถือที่มีสัญญาณล้ำข้ามแดน ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว จำนวน 4 จุด ได้แก่ จุดที่ 1 จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จุดที่ 2 บ้านโคกสะแบง ต.ท่าข้าม จุดที่ 3 ตลาดเบญจวรรณ ต.ป่าไร่ และจุดที่ 4 จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน อ.คลองหาด
โดยทุกพื้นที่ได้มีการตัดสายสัญญาณโทรศัพท์มือถือ และนำเสาอากาศลงจากเสา หรือแก้ไขความสูงของเสา และความแรงของสัญญาณโทรศัพท์มือถือตามมาตรการที่กำหนด เพื่อมิให้สัญญาณล้ำข้ามแดน และนำไปสู่การใช้ประโยชน์ของแก๊งคอลเซ็นเตอร์
"มาตรการดังกล่าวอาจส่งกระทบการใช้งานสัญญาณโทรศัพท์ของประชาชนบ้าง แต่ สำนักงาน กสทช. ได้กำชับให้ผู้ให้บริการเร่งติดตั้งสถานีโทรศัพ์มือถือขนาดเล็ก เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าวแล้ว" นายไตรรัตน์ ระบุ