น่าห่วง! สธ.เผยแนวโน้มปี 68 ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่-ปอดอักเสบ พุ่งสูงกว่าปีก่อน

ข่าวทั่วไป Tuesday February 18, 2025 17:50 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

น่าห่วง! สธ.เผยแนวโน้มปี 68 ผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่-ปอดอักเสบ พุ่งสูงกว่าปีก่อน

กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อัปเดตสถานการณ์โรคในประเทศไทย และเฝ้าระวังติดตามสถานการณ์โรคในต่างประเทศ พร้อมแนะวิธีป้องกันและดูแลตนเองให้ปลอดภัยห่างไกลโรค

1. โรคไข้หวัดใหญ่: มีผู้ป่วยสะสม 107,570 ราย เสียชีวิต 9 ราย โดยในปี 68 มีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นกว่าปี 67 กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือกลุ่มอายุ 5-9 ปี ซึ่งสายพันธุ์ที่ตรวจพบมากที่สุด เป็น A/H1N1 (2009) รองลงมา คือ B และ A/H3N2 ตามลำดับ พบการระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่พบในโรงเรียน ปัจจุบัน มียาต้านไวรัสโอเซลทามิเวียร์ (Oseltamivir) ที่ใช้รักษาและลดอาการรุนแรงของโรค แนะนำให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ไปรับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุก ๆ ปี เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน

2. โรคปอดอักเสบ: ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-14 ก.พ. 68 ผู้ป่วยสะสม 65,777 ราย เสียชีวิต 49 ราย โดยในปี 68 มีแนวโน้มผู้ป่วยสูงขึ้นกว่าปี 67 โดยกลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือกลุ่มอายุ 0-4 ปี รองลงมา คืออายุ 60 ปีขึ้นไทัป และอายุ 5-9 ปี ตามลำดับ ซึ่งผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป รองลงมาคือ 50-59 ปี และอายุ 40-49 ปี

ทั้งนี้ เน้นย้ำให้ประชาชนป้องกันตนเองด้วยการสวมหน้ากากอนามัย เมื่อต้องเข้าไปในที่ที่มีคนรวมตัวกันจำนวนมาก ล้างมือบ่อย ๆ ด้วยสบู่และน้ำ หรือใช้เจลแอลกอฮอล์ หากพบว่าป่วยเป็นโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ ควรหยุดพักรักษาตัวจนกว่าจะหายเป็นปกติ

3. โรคโควิด-19: ในปี 68 มีผู้ป่วยสะสม 9,158 ราย กลุ่มอายุที่พบอัตราป่วยสูงสุด 3 อันดับแรก คือ อายุ 0-4 ปี รองลงมาอายุ 30-39 ปี และกลุ่มอายุ 20-29 ปี ตามลำดับ มีผู้เสียชีวิตสะสม 4 ราย โดยกลุ่มอายุที่พบผู้เสียชีวิต คือกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป สายพันธุ์ที่พบมากที่สุด คือ JN.1

4. โรคไข้เลือดออก: สถานการณ์ปี 68 พบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกต่ำกว่าปีที่ผ่านมา 4.8 เท่า โดยมีผู้ป่วย 3,550 ราย ผู้เสียชีวิต 5 ราย ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มวัยเรียน และอัตราป่วยตายสูงในกลุ่มผู้สูงอายุ โดยคาดการณ์ว่าผู้ป่วยในปี 68 จะต่ำกว่าปี 67

ทั้งนี้ เน้นย้ำให้กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ทำความสะอาดบ้าน ไม่ให้มีมุมอับทึบ พักผ่อนในห้องที่มีมุ้งลวด หากมีผู้ป่วยในบ้าน หรือใกล้บ้าน ให้เจ้าหน้าที่ฉีดพ่นกำจัดยุงตัวเต็มวัยทั้งในและนอกบ้าน สังเกตอาการบุตรหลาน และผู้สูงอายุในบ้าน หากมีอาการไข้สูงลอยมากกว่า 2 วัน ทานยาพาราเซตามอล งดทานยากลุ่ม NSAIDs เช็ดตัวแต่ไข้ไม่ลด ปวดศีรษะ อ่อนเพลีย มีจุดผื่นแดงตามตัว ควรรีบไปพบแพทย์

5. โรคพิษสุนัขบ้า: สถานการณ์ปี 68 มีจำนวนสัตว์พบเชื้อ 34 ตัว โดยมีการพบเชื้อในสัตว์สูงสุด ที่จังหวัดขอนแก่น บุรีรัมย์ มหาสารคาม สงขลา และอุบลราชธานี มีผู้เสียชีวิต 1 ราย ซึ่งโรคพิษสุนัขบ้านั้น ไม่ได้เกิดเฉพาะช่วงหน้าร้อนแต่พบได้ทั้งปี การป้องกันที่ดีที่สุด คือ หลีกเลี่ยงการสัมผัส โดยใช้หลัก 5 ย. "อย่าแหย่ อย่าเหยียบ อย่าแยก อย่าหยิบ อย่ายุ่ง"

ย้ำประชาชน หากพบโค กระบือ ป่วยตายผิดปกติ ให้แจ้งเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ เพื่อการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ และห้ามชำแหละซากเพื่อบริโภค เนื่องจากการชำแหละเนื้อสัตว์โดยไม่สวมอุปกรณ์ป้องกัน และการรับประทานเนื้อดิบ ก็อาจติดโรคพิษสุนัขบ้าได้ ทั้งนี้ หากถูกสุนัขกัด แม้พบแผลเล็กน้อย ควรเข้าพบแพทย์เพื่อพิจารณาฉีดวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า

6. โรคจากต่างประเทศ: กรมควบคุมโรค เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ ได้แก่

  • โรคไข้หวัดใหญ่ โดยสถานการณ์ที่ประเทศญี่ปุ่น ทางสถาบันโรคติดต่อแห่งชาติญี่ปุ่น การรายงานว่า ระหว่างวันที่ 2 ก.ย. 67-26 ม.ค. 68 มีผู้ป่วยสะสม 9.52 ล้านราย เฉลี่ยวันละ 66,132 ราย และในประเทศไต้หวัน ระหว่างวันที่ 19 - 25 ม.ค. 68 มีผู้ป่วยที่มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่เข้ารับการรักษาสูงถึง 162,352 ราย ตั้งแต่ต้นเดือนต.ค. 67 จนถึงต้นเดือนก.พ. 68 พบผู้ป่วยอาการหนัก 667 ราย และเสียชีวิต 132 ราย โดยผู้ป่วยอาการหนักส่วนใหญ่เป็นผู้ที่มีอายุเกิน 65 ปี สายพันธุ์ที่พบส่วนใหญ่เป็นสายพันธุ์ A ซึ่งพบสายพันธุ์ย่อยที่สำคัญสองชนิด คือ A (H1N1) และสายพันธุ์ A (H3N2)
  • โรคไข้หวัดนก สถานการณ์โรคไข้หวัดนกในคน และสัตว์ (สัตว์ปีก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ติดเชื้อ) ทั่วโลกยังพบมีรายงานเป็นระยะ โดยเฉพาะสายพันธุ์ A (H5N1) ซึ่งติดต่อจากสัตว์มาสู่คน ทั้งนี้ จากการรายงานที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. 67-14 ก.พ. 68 มีผู้ป่วยสะสม 68 ราย มีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยพบรายล่าสุดเมื่อวันที่ 6 ม.ค. 68

ปัจจุบัน ประเทศไทยยังไม่มีรายงานผู้ป่วยยืนยันรายใหม่ หลังจากพบผู้ป่วยรายสุดท้ายเมื่อปี 2549 ทั้งนี้ ประเทศไทย มีระบบเฝ้าระวังสถานการณ์โรคไข้หวัดนก ทั้งในคน สัตว์ และสัตว์ป่า รวมทั้งประเมินความเสี่ยง เน้นย้ำประชาชนไม่สัมผัสสัตว์ปีก และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ป่วยตาย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ