นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เปิดเผยถึงความคืบหน้าของกระบวนการได้มาซึ่งตำแหน่งประธานกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ประธานบอร์ด ธปท.) ว่า ภายหลังจากที่คณะกรรมการคัดเลือกประธานบอร์ด ธปท. ซึ่งมีนายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์ เป็นประธานกรรมการคัดเลือกฯ ได้เคาะชื่อประธานบอร์ด ธปท.คนใหม่ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในการประชุมเมื่อวันที่ 28 ก.พ.68 นั้น ขั้นตอนต่อไป จะเป็นการตรวจทานอีกรอบ ก่อนนำเสนอเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เพื่อให้ความเห็นชอบ ก่อนที่จะนำชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ
"หลังจากคณะกรรมการฯ ได้ชื่อมาแล้ว อยู่ระหว่างขั้นตอนตรวจทานอีกรอบก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี จะพยายามทำให้เร็วที่สุด เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้" นายพิชัย กล่าว
พร้อมเชื่อมั่นว่า การเสนอชื่อนายสมชัย สัจจพงษ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง นั่งเป็นประธานบอร์ด ธปท. จะไม่มีปัญหาสะดุดเหมือนในรอบที่แล้ว เพราะได้พิจารณากันอย่างดีที่สุด ทั้งคุณสมบัติที่เพียบพร้อม และความเข้าใจในการทำงาน และน่าจะประสานการทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีระหว่างกระทรวงการคลัง กับ ธปท.
ทั้งนี้ เชื่อว่านายสมชัย เป็นคนที่เข้าใจการทำงานในภาครัฐ และมีพื้นฐานทางการเงินอย่างดี ซึ่งจะทำให้ร่วมกันวางนโยบายให้เดินหน้าได้อย่างราบรื่น
"เราดูกันอย่างดีที่สุดแล้ว เพราะจริง ๆ แล้ว คุณสมบัติอะไรต่าง ๆ ก็เพียบพร้อม คิดว่าคงจะไม่มีประเด็นอะไร หรือหากมี ก็คงน้อยมาก เชื่อว่าจะไม่ติดขัดอะไร น่าจะเป็นคนที่ทำงานเข้าใจ และร่วมกันได้ดี" รองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าว
ส่วนกรณีการลดดอกเบี้ยของธนาคารเฉพาะกิจของรัฐ ภายหลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายลง 0.25% ในการประชุมรอบล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ก.พ.นั้น รองนายกฯ และรมว.คลัง กล่าวว่า คงต้องเป็นหน้าที่ของผู้ที่ดูแลระดับนโยบายของสถาบันการเงินนั้น ไปพิจารณาหลังจากที่ได้ติดตามสถานการณ์ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ
"หลังจาก กนง.ลดดอกเบี้ย สถานการณ์ภายในประเทศเป็นอย่างไร ควบคู่กับสถานการณ์นอกประเทศ ฉะนั้น ปล่อยให้ผู้ที่ดูแลอย่างใกล้ชิดเป็นผู้พิจารณา" นายพิชัย ระบุ