นายกฯ ล้อมคอกปมอุบัติเหตุก่อสร้างพระราม 2 เอาจริง! ขึ้นแบล็คลิสต์ผู้รับเหมา

ข่าวทั่วไป Monday March 17, 2025 16:08 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายกฯ ล้อมคอกปมอุบัติเหตุก่อสร้างพระราม 2 เอาจริง! ขึ้นแบล็คลิสต์ผู้รับเหมา

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ประชุมร่วมกับ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คมนาคม, นายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม, นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องมาตรการความปลอดภัยในการก่อสร้างถนนและเส้นทางคมนาคม หลังเกิดเหตุคานก่อสร้างโครงการทางพิเศษ สายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ด้านตะวันตก บริเวณถนนพระราม 2 ทรุดตัว จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต และบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การก่อสร้างทางด่วนที่พระราม 2 และทางด่วนพระราม 3 ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ลงนามในรัฐบาลชุดนี้ แต่รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง เพราะสร้างปัญหา และเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงขอให้ทุกคนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกระทรวงคมนาคมช่วยกันดูแล โดยเฉพาะกรณีที่บริษัทรับเหมารายใหญ่ มีการใช้ผู้รับเหมารายเล็กด้วย จึงไม่แน่ใจว่ามีมาตรฐานหรือไม่ แต่อยากให้เกิดความรับผิดทางแพ่ง และขอให้ดำเนินการเรื่องนี้ทันที

นายกฯ ล้อมคอกปมอุบัติเหตุก่อสร้างพระราม 2 เอาจริง! ขึ้นแบล็คลิสต์ผู้รับเหมา

ส่วนเรื่องที่ปรึกษาของโครงการฯ ผู้รับผิดชอบในวิชาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องดูว่าการทำโครงการนี้ได้มีการละเลยกระบวนการต่าง ๆ หรือไม่ และการควบคุมการก่อสร้างเป็นไปตามข้อกำหนดและเกณฑ์ต่าง ๆ หรือไม่ ขณะเดียวกัน ก็ต้องมีความรับผิดชอบทางอาญาด้วย เพราะควรต้องรับผิดชอบร่วมกัน

"ต้องดูว่าปัญหาซับซ้อนแค่ไหน และมาอย่างไร ถึงขั้นยึดใบอนุญาตหรือไม่ จึงขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการเรื่องนี้อย่างจริงจัง และให้พิจารณาด้วยว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นจะมีผู้รับผิดชอบด้านไหนบ้าง ซึ่งแน่นอนว่านายสุริยะ ตั้งใจอยากให้โครงการก่อสร้างพระราม 2 เสร็จเรียบร้อย แต่อุบัติเหตุและปัญหาต่าง ๆ เป็นสิ่งที่ไม่ควรจะเกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกิดการเสียชีวิตของคน เพราะฉะนั้นต้องชัดเจนในเรื่องของความรับผิดชอบต่าง ๆ" นายกรัฐมนตรี กล่าว
นายกฯ ล้อมคอกปมอุบัติเหตุก่อสร้างพระราม 2 เอาจริง! ขึ้นแบล็คลิสต์ผู้รับเหมา

พร้อมระบุว่า สิ่งที่เกิดขึ้นต้องดูในรายละเอียดของการสอบสวนด้วยว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร จึงขอให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) สอบสวนต่อในเรื่องนี้ และให้คำแนะนำเพิ่มเติม เพราะอยากให้มีความชัดเจน เพื่อที่จะได้ไม่ต้องรับผิดชอบเป็นครั้ง ๆ เมื่อเกิดเหตุขึ้นในอนาคต พร้อมฝากดูในเรื่องของการจราจรและความปลอดภัยด้วย ซึ่งได้รับข้อมูลว่าการจราจรไม่คล่องตัว และติดขัดมาก

ด้านนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คมนาคม เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งการว่าหากตรวจสอบแล้วพบสาเหตุที่ทำให้คานก่อสร้างร่วง มาจากความผิดพลาดของบริษัทผู้รับเหมา หรือผู้ควบคุมงาน ให้บังคับใช้กฎหมายที่มีอยู่ โดยพิจารณาบทลงโทษสูงสุด ตามมาตรา 109 หมวด 12 ของ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างปี 2560 ว่าด้วยการทิ้งงาน

สำหรับการเอาผิดกับผู้รับเหมานั้น นายสุริยะ กล่าว อุบัติเหตุนี้เพิ่งเกิดเมื่อ 2 วันที่แล้ว ซึ่งการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) จะเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง คาดว่าจะใช้เวลาไม่เกิน 1 เดือน ส่วนมาตรการเพิ่มเติมเพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำซากนั้น ได้เสนอให้สภาวิศวกรรมสถานฯ มาตรวจสอบกระบวนการ โดยจะว่าจ้างเข้ามาเป็นที่ปรึกษาดูกระบวนการทั้งหมดเพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด

ส่วนการดำเนินมาตรการสมุดพกเพื่อตัดแต้มผู้รับเหมานั้น ได้รับทราบจากอธิบดีกรมบัญชีกลาง ที่ระบุว่า มาตรการปัจจุบันตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง สามารถนำเรื่องดังกล่าวเข้ามาใช้ได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอออกมาตรการสมุดพก หน่วยงานที่รับผิดชอบแต่ละกรมต้องใช้ดุลยพินิจ ขณะที่เจ้าหน้าที่ก็กังวลว่า อาจถูกฟ้องร้องได้ อย่างไรก็ตาม คิดว่าควรตรวจสอบให้ชัดเจน และหากเป็นความบกพร่องของผู้รับเหมาจนทำให้มีผู้เสียชีวิตก็คงต้องใช้มาตรการขั้นสูงสุด

นายสุริยะ ยอมรับว่า ต้องมีการทบทวนการแบ่งสัญญาใหม่ เพราะที่ผ่านมา มีการแบ่งงานไปหลายสัญญา เช่น กรณีการก่อสร้างเส้นพระราม 2 มีการซอยสัญญาไป 14 สัญญา ทำให้บางสัญญาการก่อสร้างไม่แล้วเสร็จ ทำให้เกิดปัญหาฟันหลอ จึงได้สั่งการไปว่าจากนี้ต้องแบ่งสัญญาเท่าที่จำเป็น

"ประชาชนเกิดความไม่มั่นใจ ก็เข้าใจความรู้สึกของประชาชน จึงเป็นที่มาที่บอกว่าหากเกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้เสียชีวิต จะต้องห้ามรับงาน ทำให้บริษัทผู้รับเหมาต้องมีมาตรการที่เข้มข้น และเป็นที่มาที่จะจ้างวิศวกรรมการมาตรวจสอบ เพื่อให้การก่อสร้างมีมาตรฐาน" นายสุริยะ กล่าว

ส่วนกระแสสังคมที่เรียกร้องให้รัฐมนตรีลาออก เพื่อแสดงความรับผิดชอบนั้น นายสุริยะ กล่าวว่า สิ่งที่กระทรวงคมนาคมดำเนินการมาตลอด จนในที่สุดมีมาตรการที่ชัดเจน คือ แบล็คลิสต์ผู้รับเหมานั้น เชื่อว่าปัญหาด้านความปลอดภัยจะดีขึ้นแน่นอน สำหรับการก่อสร้างทางด่วนพระราม 2 คาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงสิ้นปี 68 แน่นอน

นายสุริยะ ยอมรับว่าสิ่งที่ประชาชนได้สะท้อนจากอุบัติเหตุที่เกิดบนถนนพระราม 2 เป็นปัญหาซ้ำซาก ซึ่งเมื่อเกิดเหตุขึ้นแล้ว กระทรวงคมนาคมไม่เคยปัดความรับผิดชอบ ได้สั่งการให้อธิบดีกรมทางหลวง ไปดูแลเรื่องความปลอดภัย และเข้มงวดกับผู้รับเหมาก่อสร้าง

ขณะเดียวกันที่ผ่านมาได้เชิญผู้รับเหมามาพูดคุย และเน้นย้ำไม่ให้มีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นอีก แต่ในที่สุดก็เกิดเรื่องนี้ขึ้น จึงได้มี "มาตรการสมุดพก" ที่จดบันทึกจำนวนการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการก่อสร้าง หากมีกรณีเสียชีวิตจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งได้ประสานกับกรมบัญชีกลางถึงการขึ้น Black List หากพบมีผู้เสียชีวิต และห้ามบริษัทนั้นมาประมูลงานใหม่ 1-2 ปี ซึ่งหากบริษัทผู้รับเหมาถ้าทำไม่ได้ และยังคงมีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ก็จะส่งผลต่อการรับงานในอนาคต

"เชื่อว่า มาตรการนี้ น่าจะได้ผลมากกว่าการพูดคุยแบบปากเปล่า ซึ่งกระทรวงการคลัง กรมบัญชีกลาง ได้ให้ความร่วมมือในการแก้กฎเกณฑ์เป็นอย่างดี" รองนายกฯ และรมว.คมนาคม ระบุ

อย่างไรก็ดี สำหรับมาตรการสมุดพกผู้รับเหมา คาดว่าจะดำเนินการให้มีผลบังคับใช้ได้ไม่เกินสิ้นเดือนเม.ย.นี้ ส่วนจะสมุดพกจะย้อนหลังไปถึงเหตุการณ์ก่อนหน้าได้หรือไม่นั้น เรื่องนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณา


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ