น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดนครสวรรค์เพื่อติดตามผลการปฏิบัติการปราบปรามและจับกุมยาเสพติดในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียง โดยมี พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รายงานผลการจับกุมในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และนำชมของกลางที่สามารถจับกุมได้ 7 คดีใหญ่ ได้ของกลางเป็นยาบ้า 20.08 ล้านเม็ด ไอซ์ 700 กิโลกรัม คีตามีน 199 กิโลกรัม ผู้ต้องหา 20 คน และรถยนต์ 14 คัน
นายกรัฐมนตรีได้ร่วมแถลงผลปฏิบัติการจับกุมยาเสพติดครั้งนี้ว่า ยาเสพติดที่จับกุมได้มีทั้งยาบ้า ยาไอซ์ และยาเค อย่างที่เห็นยาบ้าจับได้ทั้งหมด 20 ล้านเม็ด ทั้งหมดมี 7 คดี ยาไอซ์ 700 กิโลกรัม ถือว่าเป็นล็อตที่ใหญ่มาก และเริ่มจับอย่างจริงจังตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้วจนถึงวันที่ 1 มีนาคมปีนี้ถือเป็นส่วนที่จับได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วที่ยังไม่เรียบร้อย ทางตำรวจได้มีการจับเพิ่มได้อีกด้วย และจะมีรายงานเคสต่อเคสเป็นระยะ
นายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากนี้จะขอความร่วมมือจากกระทรวงต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบำบัด ให้ผู้เสพกลับคืนสู่สังคม ดังนั้นเราต้องช่วยกันในการบำบัดให้กลับเข้าสู่สังคมอันนี้คือสิ่งสำคัญ รัฐบาลจะทำในเรื่องการฝึกอาชีพซึ่งเริ่มแล้ว โดยศูนย์บำบัด เป้าหมายอยากให้ประชาชนมีอาชีพ ต่อไปจะได้ไม่หันกลับเข้าไปยาเสพติดอีก และไม่ส่งผลให้คน เสพยาเพิ่มขึ้น รัฐบาลจะแก้ไขปัญหายาเสพติดให้ครบวงจรและเข้มข้นขึ้นในทุกภาคส่วน
ส่วนเครื่องเอ็กซเรย์ยาเสพติดมีไม่เพียงพอ โดยมีงบประมาณตั้งแต่รัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน ที่จะต้องให้มีเครื่องเอ็กซเรย์ยาเสพติดมากขึ้น เพื่อจะได้ครบทั้งหมดทั่วประเทศในเดือนกันยายนปีนี้ แต่มีการพูดคุยในกระบวนการ ตนอยากขอให้เร่งว่า ถ้าเครื่องไหนเสร็จก่อนก็ขอให้เริ่มนำมาใช้งานได้เลย จากที่ตนได้เข้าไปดูการตรวจเครื่องมาพบว่าไม่พลาด พอเห็นการเอ็กซเรย์สามารถจับได้เลย โดยการมีผู้วิเคราะห์ และผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นเรื่องจำเป็นอย่างมาก
ส่วนเรื่องการขยายผลจับกุมและยึดทรัพย์ เราเต็มที่อยู่แล้ว ส่วนของกลางที่ยึดมามีการกำหนดวันการทำลาย โดยจะดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเข้มข้น ซึ่งเรื่องยาเสพติดนั้นคนที่คนเข้ามาต้องตระหนักรู้ว่าทำลายประเทศชาติอย่างมาก ฉะนั้นการยึดทรัพย์เป็นเรื่องที่สามารถทำได้เลย และขอให้ประชาชนมั่นใจว่า ยาเสพติดที่จับกุมได้จะไม่มีการนำมาวนในกระบวนการอีก
สำหรับ 7 คดีที่แถลงข่าววันนี้จะสามารถสาวถึงตัวการใหญ่ได้ตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันมา และบางกรณีที่อยู่ในต่างประเทศก็มีการออกหมายจับไปแล้ว ซึ่งมีทั้งระดับผู้สั่งการ รายใหญ่ รายเล็ก และเจ้าของการผลิต ซึ่งใน 7 คดีนี้ยังไม่มีผู้ต้องหาเป็นคนมีสีเข้าไปเกี่ยวข้อง
ส่วนมิติการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสิ่งที่คิดตลอดและหาข้อมูลเพิ่มเติม เพราะเจ้าหน้าที่ทำงานเสี่ยงชีวิต ควรได้รับค่าตอบแทนเพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่เจ้าหน้าที่ และทุกภาคส่วน